วิธีเปลี่ยนชื่อซัมมอนเนอร์เป็น Riot ID ใน League of Legends
League of Legends กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เนื่องจาก Riot Games เปลี่ยนจากชื่อซัมมอนเนอร์ไปเป็น Riot ID การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่า อีกไม่นานในอนาคตผู้เล่นจะไม่สามารถใช้ชื่อซัมมอนเนอร์ได้
ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน Riot Games จะเสนอการเปลี่ยนชื่อฟรีหนึ่งครั้งให้กับผู้เล่นทุกคนหากคุณต้องการซื้อการเปลี่ยนชื่อเพิ่มเติม คุณสามารถทำได้ในหน้าบัญชีโดยมีค่าใช้จ่ายเท่ากับ 10 ดอลลาร์สหรัฐในสกุลเงินในเกม
วิธีเปลี่ยนชื่อซัมมอนเนอร์เป็น Riot ID
• เข้าสู่บัญชีของคุณโดยใช้ไคลเอนต์ Riot
• หลังจากลงชื่อเข้าใช้แล้ว ให้ค้นหา และคลิกไอคอนโปรไฟล์ ที่มุมขวาบนของไคลเอ็นต์
• มองหา รายละเอียดบัญชี และคลิกที่มัน นี่จะเป็นการเปิดแท็บใหม่ในเว็บเบราว์เซอร์ของคุณ และอาจแจ้งให้คุณเข้าสู่ระบบอีกครั้ง
• ในแท็บใหม่นี้ คุณจะเห็นส่วนที่ชื่อ Riot Id ภายในส่วนนั้น คุณจะพบชื่อเกมและสโลแกนของคุณ
• แก้ไข Riot Id ของคุณเป็นชื่อที่คุณต้องการ และเมื่อคุณพอใจแล้ว ให้คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง
แค่นั้นแหละ! ตอนนี้คุณได้เปลี่ยน Riot ID ของคุณเรียบร้อยแล้ว โปรดทราบว่าคุณได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนชื่อได้ฟรี 1 ครั้ง ดังนั้นควรตัดสินใจอย่างรอบครอบ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
โปรดทราบว่าคุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ สำหรับการอัปเดตนี้หาก:
คุณกำลังใช้ชื่อซัมมอนเนอร์และ Riot ID เดียวกัน
คุณพอใจกับ Riot ID ปัจจุบันของคุณแล้ว
เหตุใด Riot Games จึงยุติการใช้ชื่อซัมมอนเนอร์ใน League of Legends?
Riot Games กำลังยุติการใช้ชื่อ Summoner และย้ายผู้เล่นทั้งหมดไปใช้ Riot ID โดยเฉพาะ “เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น” ตามคำแถลงอย่างเป็นทางการของเจ้าหน้าที่ Riot
เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องราวของ Runeterra, League of Legends และ Summoner’s Rift ก็พัฒนาขึ้น ในตอนแรก ผู้เล่นจะทำหน้าที่เป็นซัมมอนเนอร์ที่นำแชมเปี้ยนชุดแรกมาสู่ Rift
อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้กลายเป็นข้อจำกัดสำหรับโลกและตัวละครของมันในปี 2014 โฟกัสได้เปลี่ยนมาอยู่ที่แชมเปี้ยนแทนที่จะเป็นซัมมอนเนอร์ที่ทรงพลัง
แม้ว่าคุณอาจยังได้ยินคำว่า “ซัมมอนเนอร์” ในบางที่ เช่น เสียงพูดเป็นครั้งคราว การอ้างอิง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชื่อของ Rift แต่มันไม่เข้ากับตำนานอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงชื่อซัมมอนเนอร์ของผู้เล่น การอัปเดตนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สอดคล้องกับโลกปัจจุบันของ League of Legends ได้ดีขึ้น สร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้นในเกมทั้งหมดของ Riot และลดความซับซ้อนทางเทคนิคของการทำงานของชื่อ
