Outdated Routers ตกเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ – วิธีป้องกันก่อนถูกเจาะระบบ

เมื่อเครือข่ายของคุณถูกจับตามอง: การสแกนหาช่องโหว่อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น และภัยคุกคามต่อเราเตอร์ที่ล้าสมัย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การสแกนหาช่องโหว่อินเทอร์เน็ต (Internet Vulnerability Scanning) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ เราเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายที่ไม่ได้รับการอัปเดตตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่า ทำไมการสแกนช่องโหว่จึงเพิ่มขึ้น, มันทำงานอย่างไร, และ วิธีป้องกันไม่ให้เราเตอร์ของคุณตกเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์

การสแกนช่องโหว่อินเทอร์เน็ตคืออะไร และทำไมถึงเพิ่มขึ้น?

การสแกนช่องโหว่อินเทอร์เน็ตเป็นกระบวนการที่แฮกเกอร์หรือกลุ่มนักวิจัยด้านความปลอดภัย ตรวจสอบอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อค้นหาจุดอ่อนที่อาจถูกใช้ในการโจมตี

ทำไมการสแกนช่องโหว่ถึงเพิ่มขึ้นในปี 2025?

จำนวนอุปกรณ์ IoT ที่เพิ่มขึ้น – อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น กล้องวงจรปิด สมาร์ทโฮม และเราเตอร์ในบ้าน กลายเป็นเป้าหมายที่ดึงดูดแฮกเกอร์
อุปกรณ์ที่ล้าสมัยและไม่ได้รับการอัปเดต – เราเตอร์รุ่นเก่ามักไม่มีการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัย ทำให้แฮกเกอร์สามารถเจาะระบบได้ง่ายขึ้น
เครื่องมือสแกนเครือข่ายที่พัฒนาไปไกล – ปัจจุบันมีเครื่องมือสแกนช่องโหว่ออนไลน์ที่สามารถตรวจสอบเครือข่ายทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว เช่น Shodan, Censys และ Masscan
การโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น – กลุ่มแฮกเกอร์และอาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ช่องโหว่เหล่านี้เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ หรือแม้กระทั่งเข้าควบคุมเครือข่าย

เราเตอร์เก่ากลายเป็นเป้าหมายหลักของการโจมตี

เราเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทำหน้าที่เป็นประตูสู่โลกอินเทอร์เน็ต แต่เมื่อเวลาผ่านไป อุปกรณ์เหล่านี้กลับกลายเป็นจุดอ่อนที่แฮกเกอร์ใช้เป็นช่องทางเข้าสู่เครือข่ายของคุณ

ทำไมเราเตอร์จึงเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์?

เฟิร์มแวร์ที่ล้าสมัย – หลายคนใช้เราเตอร์ที่มีอายุหลายปีโดยไม่เคยอัปเดตเฟิร์มแวร์ ทำให้มีช่องโหว่ที่แฮกเกอร์สามารถใช้โจมตี
การตั้งค่าเริ่มต้นที่ไม่ปลอดภัย – ผู้ใช้หลายคนยังคงใช้ ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเริ่มต้นของโรงงาน ซึ่งเป็นที่รู้กันในวงการแฮกเกอร์
ไม่มีไฟร์วอลล์หรือระบบป้องกัน – บางอุปกรณ์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งพอ
พอร์ตที่เปิดไว้โดยไม่จำเป็น – บางครั้งเราเตอร์เปิดพอร์ตที่ไม่จำเป็น ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้โดยง่าย

ผลกระทบของการถูกโจมตีผ่านเราเตอร์

ข้อมูลส่วนตัวและธุรกรรมออนไลน์ของคุณอาจถูกดักจับ
เครือข่ายของคุณอาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีผู้อื่น
ความเร็วอินเทอร์เน็ตอาจลดลงจากการที่แฮกเกอร์ใช้ทรัพยากรเครือข่ายของคุณ
คุณอาจกลายเป็นเหยื่อของ Botnet Attack โดยที่คุณไม่รู้ตัว

วิธีป้องกันการถูกโจมตีจากการสแกนเครือข่าย

แม้ว่าการสแกนช่องโหว่บนอินเทอร์เน็ตจะเป็นเรื่องที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ แต่คุณสามารถทำให้เครือข่ายของคุณปลอดภัยขึ้นด้วยวิธีต่อไปนี้

1. อัปเดตเฟิร์มแวร์ของเราเตอร์เป็นประจำ

เราเตอร์รุ่นใหม่มักมีการอัปเดตความปลอดภัยเป็นประจำ ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของคุณได้รับการอัปเดตล่าสุด และหากเราเตอร์ของคุณไม่ได้รับการสนับสนุนอีกต่อไป ควรพิจารณาเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่

2. เปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้นของเราเตอร์

ใช้รหัสผ่านที่ยากต่อการคาดเดา
หลีกเลี่ยงการใช้รหัสผ่านที่มีแต่ตัวเลขหรือคำทั่วไป
เปิดใช้งาน 2FA (Two-Factor Authentication) หากเราเตอร์รองรับ

3. ปิดพอร์ตที่ไม่จำเป็น

หากคุณไม่ได้ใช้บริการเช่น Remote Management, UPnP หรือ Telnet ควรปิดการใช้งานเพื่อลดช่องโหว่ที่แฮกเกอร์อาจใช้โจมตี

4. ใช้ไฟร์วอลล์และระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่าย

เปิดใช้งานไฟร์วอลล์ของเราเตอร์เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต
ใช้ระบบ Intrusion Detection & Prevention (IDS/IPS) เพื่อช่วยตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติ

5. ใช้ VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

VPN สามารถช่วยเข้ารหัสข้อมูลของคุณและปกปิดที่อยู่ IP จริงของคุณ ทำให้แฮกเกอร์ตรวจจับเครือข่ายของคุณได้ยากขึ้น

สรุป เราเตอร์ของคุณปลอดภัยแค่ไหน?

การเพิ่มขึ้นของ การสแกนหาช่องโหว่อินเทอร์เน็ต ทำให้ อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการอัปเดตมีความเสี่ยงสูงขึ้น โดยเฉพาะเราเตอร์เก่าที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

คุณสามารถลดความเสี่ยงได้โดย
✅ อัปเดตเฟิร์มแวร์เราเตอร์เป็นประจำ
✅ เปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้น
✅ ปิดพอร์ตที่ไม่จำเป็น
✅ เปิดใช้งานไฟร์วอลล์และระบบรักษาความปลอดภัย
✅ ใช้ VPN เพื่อป้องกันการสอดแนม

อย่าปล่อยให้เราเตอร์ของคุณเป็นช่องโหว่ที่แฮกเกอร์ใช้โจมตี!