AI Blog NEWS AND EVENTS Protect Website Security Technology

Identity Theft Warning! สัญญาณเตือนเมื่อข้อมูลของคุณไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

Identity Theft คืออะไร? ทำไมการขโมยข้อมูลส่วนตัวจึงอันตรายกว่าที่คิด

การถูกขโมยตัวตนอาจดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับใครหลายคน แต่ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต การรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่การโจรกรรมที่สร้างความเสียหายร้ายแรงทั้งด้านการเงิน ชื่อเสียง และความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะพาคุณรู้จักกับ Identity Theft หรือ การขโมยข้อมูลระบุตัวตน ว่าคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และควรป้องกันอย่างไรให้ปลอดภัย

Identity Theft คืออะไร?

Identity Theft หรือ การขโมยตัวตน คือการที่บุคคลหนึ่งนำข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น เช่น ชื่อ-นามสกุล, หมายเลขบัตรประชาชน, ข้อมูลบัญชีธนาคาร, ข้อมูลบัตรเครดิต หรือแม้แต่บัญชีโซเชียลมีเดีย ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือกระทำความผิดต่าง ๆ

ข้อมูลเหล่านี้อาจถูกรวบรวมจากแหล่งที่คุณไม่คาดคิด เช่น เว็บไซต์ที่คุณสมัครไว้, การใช้ Wi-Fi สาธารณะโดยไม่ป้องกัน, หรือจากการตอบแบบสอบถามออนไลน์ที่ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูลอย่างปลอดภัย

ตัวอย่างพฤติกรรมที่เข้าข่าย Identity Theft

รูปแบบลักษณะการกระทำ
ขโมยข้อมูลบัตรเครดิตใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ในนามของเหยื่อ
ปลอมบัญชีโซเชียลมีเดียสร้างบัญชีปลอมเพื่อต้มตุ๋นคนรู้จักของเหยื่อ
ขอกู้เงิน/สมัครบัตรเครดิตใช้ข้อมูลของเหยื่อในการยื่นขอสินเชื่อ
Medical Identity Theftใช้สิทธิการรักษาพยาบาลในชื่อของเหยื่อ

Identity Theft เกิดขึ้นได้อย่างไร?

  1. Phishing (ฟิชชิ่ง)
    การส่งอีเมลหรือข้อความปลอม เพื่อหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัวลงในเว็บไซต์ปลอม

  2. Data Breach
    การแฮกหรือรั่วไหลของข้อมูลจากองค์กรที่คุณเคยใช้บริการ เช่น ธนาคาร โรงพยาบาล หรือแอปพลิเคชันมือถือ

  3. การแอบดูหรือขโมยโดยตรง
    เช่น การแอบถ่ายหน้าจอ การขโมยกระเป๋าเงิน หรือการดูข้อมูลบนอุปกรณ์ที่ไม่ได้ล็อกหน้าจอ

  4. Wi-Fi สาธารณะที่ไม่มีการเข้ารหัส
    ผู้ไม่หวังดีสามารถดักจับข้อมูลที่คุณส่งผ่านเครือข่ายที่ไม่ปลอดภัย

ผลกระทบจาก Identity Theft

  • ความเสียหายทางการเงิน: บัญชีถูกหักเงิน ซื้อสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

  • เครดิตเสีย: อาจถูกขึ้นบัญชีดำจากการกู้ที่ไม่ได้ชำระ เพราะไม่ได้กู้เอง

  • ชื่อเสียงเสียหาย: ผู้ร้ายอาจใช้ชื่อของคุณไปแอบอ้างหลอกลวงผู้อื่น

  • คดีความไม่คาดฝัน: มีกรณีที่เหยื่อต้องพิสูจน์ตนเองในคดีอาญาที่ไม่เคยเกี่ยวข้องมาก่อน

วิธีป้องกัน Identity Theft อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ตั้งรหัสผ่านให้รัดกุมและไม่ซ้ำกัน

    • ใช้รหัสผ่านที่มีทั้งตัวอักษรพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ ตัวเลข และอักขระพิเศษ

  2. เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น (Two-Factor Authentication)

    • โดยเฉพาะบัญชีอีเมล บัญชีธนาคาร และโซเชียลมีเดีย

  3. อย่ากรอกข้อมูลในลิงก์แปลก ๆ หรือเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย

    • ตรวจสอบว่า URL เป็น HTTPS และไม่มีตัวอักษรแปลกปลอม

  4. ระวังการใช้งาน Wi-Fi สาธารณะ

    • หลีกเลี่ยงการกรอกข้อมูลสำคัญขณะเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ไม่มีรหัสผ่าน

  5. ติดตามการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารและอีเมล

    • เปิดแจ้งเตือนการทำธุรกรรม และตรวจสอบรายการใช้จ่ายเป็นประจำ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ถ้าโดนขโมยตัวตนแล้วควรทำอย่างไร?
A: ควรรีบแจ้งธนาคาร บล็อกบัตร แจ้งความกับตำรวจ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

Q: แอปตรวจเครดิตมีประโยชน์ไหม?
A: มีประโยชน์มาก เพราะสามารถแจ้งเตือนเมื่อมีการตรวจเครดิตใหม่ หรือมีความพยายามขอสินเชื่อในชื่อของคุณ

สรุป

Identity Theft ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เมื่อข้อมูลส่วนตัวกลายเป็นทรัพย์สินที่ถูกขโมยได้ง่ายกว่าที่คิด การเรียนรู้วิธีป้องกันและการเฝ้าระวังอย่างสม่ำเสมอคือเกราะป้องกันที่สำคัญในโลกดิจิทัลที่ไม่มีพรมแดน

Loading...
Post ID: 28351 | TTT-WEBSITE | AFRA APACHE

Recommended For You

Game NEWS AND EVENTS

เทรนเนอร์ Pokemon GO ห้ามพลาด! อีเวนต์ Sizeable Surprises มาแล้ว

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอีเวนต์ “Sizeable Surprises” ที่จะมาถึงใน Pokemon GO! อีเวนต์นี้พิเศษสุดๆ เพราะจะมีโปเกมอนใหม่ 3 ตัวในเวอร์ชั่นชินนี่มาให้เหล่าเทรนเนอร์ได้สะสมกัน! รายละเอียดของอีเวนต์ โปเกมอนชินนี่ใหม่: ไฮไลท์ของอีเวนต์นี้คือโปเกมอน Wimpod, Kartana และ Celesteela ในเวอร์ชั่นชินนี่ โปเกมอนทั้ง 3 ตัวนี้ถือว่าพิเศษและหายาก
NEWS AND EVENTS Technology

UMG ประกาศถอดเพลงออกจาก TikTok อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป?

Universal Music Group (UMG) ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ ประกาศยุติการให้บริการเพลงทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม TikTok สาเหตุหลักมาจากการเจรจาเรื่องค่าตอบแทนศิลปินและนักแต่งเพลงในสัญญาฉบับใหม่ไม่ลงตัว รวมถึงความล้มเหลวในการคุ้มครองด้าน AI โดยสัญญาฉบับเก่าได้สิ้นสุดลงในวันที่ 31 มกราคม 2566 ผลจากการประกาศครั้งนี้ ส่งผลให้เพลงของศิลปินในสังกัด UMG นับล้านเพลงถูกถอดออกจาก TikTok ผู้ใช้ไม่สามารถค้นหาหรือใช้งานเพลงเหล่านั้นในการสร้างวิดีโอได้อีกต่อไป