NEWS AND EVENTS Protect Website Security Technology

Fast Flux and Phishing เทคนิคใหม่ที่ทำให้การโจมตีไซเบอร์ยากต่อการป้องกัน

การเตือนภัยจาก CISA และ FBI Fast Flux กำลังขับเคลื่อนเครือข่ายมัลแวร์, C2, และ Phishing ที่ยืดหยุ่น

ในยุคที่เทคโนโลยีและการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อาชญากรรมไซเบอร์ก็มีความซับซ้อนและปรับตัวได้เร็วขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการโจมตีด้วยมัลแวร์และการฟิชชิ่ง (Phishing) ที่ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยขององค์กรและบุคคลทั่วไปเสี่ยงต่อการถูกแฮ็กอย่างต่อเนื่อง

ในรายงานล่าสุดจาก CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) และ FBI ได้มีการเตือนเกี่ยวกับ Fast Flux ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในการทำให้เครือข่ายมัลแวร์, คำสั่งและควบคุม (C2) และการโจมตี Phishing มีความยืดหยุ่นและทนทานมากขึ้น เทคนิคนี้ทำให้การตรวจจับและการป้องกันจากระบบรักษาความปลอดภัยมีความยากลำบากขึ้น ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำการโจมตีได้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

Fast Flux คืออะไร?

Fast Flux เป็นเทคนิคที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลง IP address ของเซิร์ฟเวอร์หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับมัลแวร์, C2 servers หรือ Phishing sites อย่างรวดเร็วและบ่อยครั้ง เทคนิคนี้ทำให้การตรวจจับและการบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยหรือที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมไซเบอร์ทำได้ยากขึ้น เพราะว่าเซิร์ฟเวอร์ที่เกี่ยวข้องจะมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ IP อยู่ตลอดเวลา

ตัวอย่างเช่น ในการโจมตีที่ใช้ Fast Flux ผู้โจมตีสามารถตั้งค่า DNS (Domain Name System) ให้แสดงผลลัพธ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง IP address ของเว็บไซต์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นอันตรายทุก ๆ ไม่กี่วินาที หรือแม้กระทั่งทุก ๆ นาที ซึ่งทำให้การติดตามและบล็อกเว็บไซต์ที่อันตรายได้ยากขึ้นอย่างมาก

วิธีการที่ Fast Flux ใช้ในการสนับสนุนมัลแวร์และ C2

เมื่อเราพูดถึงการใช้ Fast Flux ในการสนับสนุนการโจมตี มันมักจะเกี่ยวข้องกับการใช้เซิร์ฟเวอร์ที่เป็น botnet หรือเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ที่ถูกแฮ็ก ซึ่งสามารถควบคุมจากระยะไกลได้ โดยการเปลี่ยนแปลง IP address ที่ใช้โดย C2 servers หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ในการควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกโจมตีหรือที่อยู่ในเครือข่าย botnet ให้สามารถหลบหลีกการตรวจจับได้ง่ายขึ้น

การใช้ Fast Flux ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งไปยังคอมพิวเตอร์ที่ติดมัลแวร์เพื่อดำเนินการโจมตีต่างๆ เช่น การขโมยข้อมูลส่วนตัว, การขัดขวางบริการ (DDoS), หรือการกระจายมัลแวร์ไปยังเครื่องอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลง IP address อย่างรวดเร็วทำให้การระบุแหล่งที่มาของการโจมตีหรือการหยุดการทำงานของเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ทำได้ยาก

การใช้ Fast Flux ใน Phishing Networks

Phishing คือการหลอกลวงผู้ใช้ให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงินโดยการสร้างเว็บไซต์ปลอมที่เหมือนกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ Fast Flux ได้ถูกนำมาใช้ในเครือข่าย Phishing เพื่อป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ปลอมเหล่านั้นถูกตรวจจับหรือถูกปิดกั้น โดยการเปลี่ยนแปลง IP address ของเว็บไซต์ Phishing อย่างรวดเร็วและบ่อยครั้ง ทำให้ผู้ใช้ตกเป็นเหยื่อได้ง่ายขึ้น

ในหลายๆ กรณีที่มีการโจมตีด้วย Phishing, ผู้โจมตีมักจะสร้างหน้าเว็บไซต์ที่เหมือนกับเว็บไซต์ธนาคาร, เว็บช็อปปิ้ง, หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ โดยที่ผู้ใช้งานอาจไม่รู้ตัวว่าโดนหลอกลวงให้กรอกข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน หรือหมายเลขบัตรเครดิต ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงที่ข้อมูลของผู้ใช้จะถูกขโมยและนำไปใช้ในทางที่ผิด

วิธีการป้องกันและการตอบสนองต่อการโจมตีที่ใช้ Fast Flux

ในขณะที่การโจมตีด้วย Fast Flux มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถหลบหลีกการตรวจจับได้ยาก แต่ก็ยังมีวิธีการบางอย่างที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีเหล่านี้ได้

  1. การตรวจจับมัลแวร์และ C2 traffic
    การใช้ระบบที่สามารถตรวจจับการสื่อสารระหว่างเครื่องที่ติดมัลแวร์กับเซิร์ฟเวอร์ที่เป็น C2 ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว จะช่วยให้สามารถระบุการใช้ Fast Flux ได้มากขึ้น

  2. การใช้ DNS filtering
    การตั้งค่า DNS filter ที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลง IP address ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย Fast Flux จะช่วยในการบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์อันตรายได้

  3. การเสริมการตรวจจับ Phishing
    การตรวจสอบเว็บไซต์ที่เข้าข่าย Phishing โดยใช้เครื่องมือที่สามารถระบุ URL ที่เป็นอันตราย หรือแม้กระทั่งการใช้ฟีเจอร์ของเบราว์เซอร์ที่สามารถป้องกันการเข้าสู่เว็บไซต์ Phishing ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดความเสี่ยง

  4. การฝึกอบรมผู้ใช้งาน
    การให้ความรู้และการฝึกอบรมกับพนักงานหรือผู้ใช้งานทั่วไปเกี่ยวกับวิธีการระบุและหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของการโจมตี Phishing จะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตี

การตอบสนองจาก CISA และ FBI

ในรายงานที่ออกโดย CISA และ FBI มีการเตือนถึงความเสี่ยงจากการโจมตีที่ใช้ Fast Flux ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในวงการอาชญากรรมไซเบอร์ โดยทั้งสองหน่วยงานได้ออกคำแนะนำให้มีการเสริมสร้างความตระหนักรู้ในองค์กรต่างๆ และให้มีการใช้เทคโนโลยีในการตรวจจับและป้องกันการโจมตีเหล่านี้อย่างเข้มงวดขึ้น รวมถึงการสร้างมาตรการในการตอบสนองเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

สรุป

การใช้ Fast Flux ในการสนับสนุนมัลแวร์, C2 servers และ Phishing networks เป็นการเพิ่มความท้าทายในการป้องกันและตรวจจับการโจมตีจากอาชญากรไซเบอร์ ซึ่งทำให้มีความยืดหยุ่นและทนทานต่อการถูกปิดกั้นมากขึ้น การรู้เท่าทันและใช้เครื่องมือในการตรวจจับที่มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ DNS filtering และการฝึกอบรมผู้ใช้งาน จะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีได้

แสดงความคิดเห็นของคุณ เกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถป้องกันการโจมตีที่ใช้ Fast Flux และ แชร์บทความนี้ เพื่อให้ความรู้กับคนอื่น ๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการโจมตีไซเบอร์ประเภทนี้!

Loading...
Post ID: 27273 | TTT-WEBSITE | AFRA APACHE

Recommended For You

AI NEWS AND EVENTS Programming Protect Website Security Technology

Malware ใหม่กับ .NET Reactor และ GitHub C2 ปกป้องระบบของคุณจากการโจมตี

มารู้จักกับ Malware Loaders ใหม่ที่ใช้ Call Stack Spoofing, GitHub C2 และ .NET Reactor เพื่อการหลบซ่อน ในยุคที่ภัยคุกคามจากมัลแวร์ (malware) มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่ามีการใช้เทคนิคใหม่ๆ ที่ซับซ้อนเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากระบบป้องกันการทำงานที่เป็นมาตรฐาน เช่น การใช้
NEWS AND EVENTS Space Technology

Starliner ภารกิจเสี่ยงตาย? ผู้เชี่ยวชาญชี้ช่องโหว่ วอน NASA ทบทวนด่วน

NASA เผชิญแรงกดดันจากผู้เชี่ยวชาญ ย้ำเตือนความเสี่ยง “หายนะ” ก่อนปล่อยจรวดโบอิ้ง จดหมายเตือน! ผู้รับเหมา NASA ชี้ชัด “เสี่ยงหายนะ” ห้ามปล่อยจรวดโบอิ้ง บรรยากาศการปล่อยจรวด Starliner ยานอวกาศของ NASA กำลังตึงเครียดอย่างมาก เมื่อ ValveTech หนึ่งในผู้รับเหมาจัดหาชิ้นส่วนสำคัญ ยื่นจดหมายเตือน NASA