AI Blog NEWS AND EVENTS Technology

Copilot Create Image มาแล้ว! สู้ GPT-4o ยังไง? Visual AI ที่คุณควรลอง

Microsoft เปิดฟีเจอร์สร้างภาพใน Copilot รับกระแส Visual AI ที่มาแรงหลัง GPT-4o

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โลกของเทคโนโลยี AI มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหลังการเปิดตัว GPT-4o ของ OpenAI ที่สามารถสร้างภาพได้แบบเรียลไทม์ด้วยความเข้าใจเชิงลึก ล่าสุด Microsoft ก็ไม่น้อยหน้า เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Microsoft Copilot ที่สามารถ สร้างภาพจากข้อความ ได้เช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงการเร่งพัฒนา Visual AI 2025 อย่างชัดเจน

ฟีเจอร์ใหม่ใน Microsoft Copilot: สร้างภาพได้ด้วย AI

Microsoft ได้เพิ่มความสามารถในการสร้างภาพเข้าไปใน Copilot ซึ่งทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์ในเครือ เช่น Word, PowerPoint, และ Edge ทำให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์ข้อความสั้น ๆ เช่น “ชายหนุ่มกำลังนั่งอ่านหนังสือในสวน” แล้วได้ภาพประกอบตามคำอธิบายนั้นในเวลาไม่กี่วินาที

คุณสมบัติเด่น:

  • สร้างภาพจากคำบรรยายด้วยภาษาอังกฤษ

  • เลือกรูปแบบสไตล์ภาพ เช่น การ์ตูน เรียลิสติก หรือแนววาดมือ

  • ใช้ร่วมกับ PowerPoint เพื่อสร้างสไลด์นำเสนอที่สื่อสารได้ดียิ่งขึ้น

ทำไม Microsoft ต้องเร่งเปิดฟีเจอร์นี้หลัง ChatGPT เปิด GPT-4o?

ฟีเจอร์นี้ของ Microsoft ถูกปล่อยออกมาในช่วงที่ GPT-4o ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากความสามารถด้านภาพ โดยเฉพาะความแม่นยำ ความเร็ว และอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ดังนั้น Microsoft จึงเดินหน้าเพิ่มฟีเจอร์เพื่อรักษาความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน และขยายฐานผู้ใช้ Copilot ให้ครอบคลุมกลุ่ม Content Creator และผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์แบบเรียลไทม์

Visual AI 2025: แนวโน้มใหม่ที่ไม่ใช่แค่ “วาดภาพ”

Visual AI กำลังก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ๆ ไม่ใช่แค่การวาดภาพจากข้อความเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการ

  • แก้ไขภาพอัตโนมัติ

  • สร้างภาพเคลื่อนไหวจากสตอรี่บอร์ด

  • ตรวจจับความรู้สึกในภาพ

  • วิเคราะห์ข้อมูลจากกราฟิกเพื่อใช้ในเชิงธุรกิจ

ในปี 2025 นี้ Visual AI ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำหรับนักวาดภาพเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือสำคัญของคนทำงานเกือบทุกสาขา

Microsoft Copilot สร้างภาพได้อย่างไร?

Copilot ใช้เทคโนโลยี AI ของ DALL·E ที่ Microsoft ซื้อลิขสิทธิ์จาก OpenAI ซึ่งสามารถแปลงข้อความเป็นภาพแบบอัตโนมัติ โดยใช้โมเดลการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ร่วมกับการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP)

  1. ผู้ใช้ป้อนข้อความคำสั่ง

  2. AI วิเคราะห์คำและตีความความหมาย

  3. สร้างภาพหลายเวอร์ชันให้เลือกในไม่กี่วินาที

แล้ว Visual AI ในปี 2025 มีอะไรใหม่บ้าง?

  • การสื่อสารข้ามภาษา ด้วยภาพแทนคำพูด

  • การใช้ภาพแทนข้อมูล (Visual Prompting)

  • การออกแบบสินค้าทางการแพทย์ หรือสถาปัตยกรรม แบบจำลองก่อนสร้างจริง

  • AI เข้าใจภาพจากกล้องจริง เพื่อนำไปใช้ใน AR/VR และการตรวจสอบความปลอดภัย

เปรียบเทียบ Microsoft Copilot กับ GPT-4o

ฟีเจอร์Microsoft CopilotChatGPT GPT-4o
สร้างภาพจากข้อความ
ทำงานร่วมกับ Office
สร้างภาพแบบ Realtime
ปรับแต่งรูปแบบภาพ✅ (บางส่วน)
มีอินเทอร์เฟซภาษาไทย✅ (บางเมนู)

บทสรุป: ผู้ใช้ควรเลือกอะไร?

หากคุณเป็นผู้ใช้สาย Office, ต้องการความสะดวกในการสร้างสื่ออย่างรวดเร็ว — Copilot คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ แต่หากคุณเน้นความสามารถลึกเชิงเทคนิค และต้องการภาพหลากหลายแนวล้ำสมัย — GPT-4o ของ ChatGPT ยังเป็นตัวเลือกที่น่าจับตาเช่นกัน

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q: Microsoft Copilot สร้างภาพได้อย่างไร?
A: ใช้เทคโนโลยี AI ของ DALL·E ในการแปลงข้อความเป็นภาพแบบอัตโนมัติในไม่กี่วินาที

Q: Visual AI ในปี 2025 มีอะไรใหม่บ้าง?
A: มีการนำไปใช้ในด้าน AR/VR, การแปลภาษา, การออกแบบผลิตภัณฑ์ และการสร้างสื่ออัตโนมัติ

CTA จาก BLOG TTT-WEBSITE:

  • สมัครรับข่าวสาร เพื่อไม่พลาดเทรนด์ใหม่ของ Visual AI

  • 💬 แชร์บทความนี้ให้เพื่อน ถ้าคุณคิดว่าเทคโนโลยีนี้เปลี่ยนโลกได้

  • ✍️ แสดงความคิดเห็น ด้านล่างว่าคุณอยากใช้ Copilot ทำภาพแนวไหน?

Loading...
Post ID: 28895 | TTT-WEBSITE | AFRA APACHE

Recommended For You

NEWS AND EVENTS

Suicide Squad Isekai เมื่อเหล่าวายร้ายกลายเป็นฮีโร่ในต่างโลก

Suicide Squad Isekai ระเบิดความมันส์ บุกต่างโลก! เตรียมพบกับความมันส์แบบฉบับใหม่ เมื่อเหล่าวายร้ายจาก DC Comics บุกตะลุยต่างโลกใน “Suicide Squad Isekai” อนิเมะสุดคาดหวังที่ออกอากาศตอนแรกไปเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 การผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่ระหว่าง DC Comics
Blog NEWS AND EVENTS Protect Website Security Technology

Apple iOS Zero-Day ช่องโหว่ล่าสุดที่คุณไม่ควรมองข้าม

Apple อุดช่องโหว่ Zero-Day บน iOS ที่ถูกใช้โจมตีเป้าหมายแบบซับซ้อน Apple ได้ออกอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดเพื่ออุดช่องโหว่ร้ายแรงจำนวน 2 จุดบนระบบปฏิบัติการ iOS และ iPadOS ซึ่งพบว่ากำลังถูกใช้ในปฏิบัติการโจมตีจริงที่มีเป้าหมายชัดเจนและมีความซับซ้อนสูง ช่องโหว่ทั้งสองนี้มีผลกระทบต่อผู้ใช้งาน iPhone และ iPad และถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ Zero-Day