NEWS AND EVENTS Protect Website Security Technology

Android อัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ล็อคเครื่องอัตโนมัติเมื่อถูกขโมย

Android กำลังเปิดตัวฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรม เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

Google กำลังยกระดับความปลอดภัยของ Android ด้วยฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์ที่เป็นนวัตกรรมนี้จะล็อคโทรศัพท์ของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบกิจกรรมที่น่าสงสัย

แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะของการทำงานของฟีเจอร์นี้ยังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าจะใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์และซอฟต์แวร์ร่วมกันเพื่อระบุความพยายามในการขโมยที่อาจเกิดขึ้น เมื่อเปิดใช้งาน ล็อคจะทำให้อุปกรณ์ของคุณไม่สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคนที่ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงที่ถูกต้อง

การพัฒนานี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Google ในการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เมื่อฟีเจอร์นี้เปิดตัว ผู้ใช้ Android สามารถคาดหวังได้ถึงชั้นป้องกันเพิ่มเติมสำหรับอุปกรณ์ที่มีค่าของพวกเขา

การทำงานร่วมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่นๆ ของ Android

ฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรม นั้นถูกออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่นๆ ของ Android อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้การปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณแข็งแกร่งขึ้นหลายชั้น ดังนี้

    • เสริมความแข็งแกร่งให้กับการล็อคด้วยลายนิ้วมือ, การจดจำใบหน้า และรหัสผ่าน: เมื่อมีการตรวจพบว่าอุปกรณ์ถูกขโมย ฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมจะเข้ามาทำงานทันที ทำให้แม้ว่าคนร้ายจะทราบลายนิ้วมือหรือรหัสผ่านของคุณ ก็ไม่สามารถปลดล็อกอุปกรณ์ได้
    • ป้องกันการรีเซ็ตค่าโรงงาน: ฟีเจอร์นี้จะป้องกันไม่ให้คนร้ายสามารถรีเซ็ตค่าโรงงานเพื่อลบข้อมูลของคุณได้ง่ายๆ เนื่องจากจะต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องเพิ่มเติมก่อนที่จะดำเนินการรีเซ็ต
    • ทำงานร่วมกับการเข้ารหัสข้อมูล: ข้อมูลทั้งหมดในอุปกรณ์ของคุณจะถูกเข้ารหัสอยู่แล้ว ทำให้แม้ว่าคนร้ายจะสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้ แต่ก็ไม่สามารถอ่านข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสนั้นได้
    • ทำงานร่วมกับ Find My Device: หากอุปกรณ์ของคุณหายหรือถูกขโมย คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ Find My Device เพื่อระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ ล็อคอุปกรณ์ หรือลบข้อมูลจากระยะไกลได้

ข้อดีของฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมใน Android เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมบน Android ที่กำลังจะเปิดตัวนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยของสมาร์ทโฟน และเมื่อเทียบกับฟีเจอร์คล้ายกันในระบบปฏิบัติการอื่นๆ เช่น iOS ก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายประการ ดังนี้

1. AI ที่ชาญฉลาดกว่า

    • การเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้: ฟีเจอร์นี้คาดว่าจะใช้ AI ในการเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน ทำให้สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างการใช้งานปกติกับการถูกขโมยได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

    • การตรวจจับที่หลากหลาย: นอกจากการตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติแล้ว อาจมีการวิเคราะห์พฤติกรรมอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า การเข้าถึงแอปพลิเคชันที่สำคัญ หรือการเชื่อมต่อกับเครือข่ายใหม่ๆ

2. การทำงานที่รวดเร็วและแม่นยำ

    • การล็อคอัตโนมัติ: เมื่อตรวจพบความผิดปกติ ระบบจะทำการล็อคอุปกรณ์ทันที ช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล

    • การลดโอกาสในการถูกปลดล็อค: ด้วยกลไกการล็อคที่ซับซ้อน ทำให้โจรยากที่จะปลดล็อคอุปกรณ์ได้

3. ความยืดหยุ่นในการใช้งาน

    • การปรับแต่งได้: ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าของฟีเจอร์นี้ได้ตามความต้องการ เช่น กำหนดระดับความไวของการตรวจจับ หรือเลือกแอปพลิเคชันที่ต้องการปกป้องเป็นพิเศษ

    • การทำงานร่วมกับฟีเจอร์อื่นๆ: ฟีเจอร์นี้สามารถทำงานร่วมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่นๆ ของ Android ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น Find My Device

4. การเปิดให้ใช้งานในวงกว้าง

    • Android เวอร์ชันต่างๆ: ฟีเจอร์นี้คาดว่าจะรองรับอุปกรณ์ Android หลายรุ่นและหลายเวอร์ชัน ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากสามารถเข้าถึงได้

เมื่อเปรียบเทียบกับ iOS: แม้ว่า iOS ก็มีฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัย แต่ฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมของ Android อาจมีความยืดหยุ่นและมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีกว่า เนื่องจาก Android เป็นระบบปฏิบัติการที่เปิดกว้างและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

คำแนะนำการตั้งค่าและใช้งานฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมบน Android

ณ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน และละเอียดเกี่ยวกับวิธีการตั้งค่า และใช้งานฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมแบบ Step-by-Step พร้อมภาพประกอบที่เป็นทางการจาก Google เนื่องจากฟีเจอร์นี้อาจยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาหรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดได้

อย่างไรก็ตาม คุณสามารถลองทำตามขั้นตอนเบื้องต้นเหล่านี้เพื่อเตรียมความพร้อม

  1. อัปเดต Android ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด: ฟีเจอร์ใหม่ๆ มักจะถูกเพิ่มเข้ามาในเวอร์ชัน Android ที่ใหม่กว่า ดังนั้นการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นสิ่งสำคัญ
  2. ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัย: เข้าไปที่ Settings > Security & privacy เพื่อดูว่ามีตัวเลือกที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการโจรกรรมหรือไม่
  3. ค้นหาแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้อง: บางครั้งฟีเจอร์ใหม่ๆ อาจถูกแยกออกมาเป็นแอปพลิเคชันแยกต่างหาก ลองค้นหาใน Google Play Store ด้วยคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง เช่น “Theft detection lock” หรือ “Find my device”

ความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล: เจาะลึกฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมบน Android

ฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรม บน Android นั้นออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างแข็งแกร่ง โดยหลักการทำงานคือ เมื่อระบบตรวจพบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ เช่น การถูกขโมยหรือการพยายามเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต อุปกรณ์จะทำการล็อคตัวเองทันที ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถ

    • เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว: ข้อมูลสำคัญของคุณ เช่น รายชื่อติดต่อ ข้อความ ภาพถ่าย และข้อมูลทางการเงิน จะได้รับการปกป้องไม่ให้บุคคลอื่นเข้าถึงได้
    • ใช้งานแอปพลิเคชัน: ผู้โจรกรรมจะไม่สามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ในโทรศัพท์ของคุณได้ เช่น แอปธนาคาร โซเชียลมีเดีย หรืออีเมล
    • ติดตั้งแอปพลิเคชันใหม่: การล็อคอุปกรณ์จะป้องกันไม่ให้มีการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่พึงประสงค์เข้ามาในเครื่อง

ปกป้องความเป็นส่วนตัว

    • เพิ่มความอุ่นใจ: ผู้ใช้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างสบายใจมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลส่วนตัวจะรั่วไหลออกไปในกรณีที่อุปกรณ์สูญหายหรือถูกขโมย

    • ป้องกันการสอดแนม: ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นมาสอดแนมหรือดึงข้อมูลส่วนตัวของคุณไปใช้ในทางที่ผิด

    • รักษาความเป็นส่วนตัว: การรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล และฟีเจอร์นี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้คุณควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ดียิ่งขึ้น

ความเข้ากันได้และการอัปเดตฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมบน Android

ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Android! ฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมตัวใหม่นี้ ถือเป็นการอัปเดตที่น่าสนใจมาก เพราะจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ของเราได้มากขึ้น

อุปกรณ์รุ่นใดที่รองรับ?

    • โดยทั่วไป: ฟีเจอร์นี้จะรองรับอุปกรณ์ Android ที่มีการอัปเดตเป็น Android 10 ขึ้นไป

    • การอัปเดต: การอัปเดตจะมาพร้อมกับการอัปเดตบริการ Google Play ซึ่งหมายความว่าแม้มือถือของคุณจะยังใช้ Android เวอร์ชันเก่ากว่า Android 10 แต่ถ้าได้รับการอัปเดตบริการ Google Play ก็มีสิทธิ์ที่จะใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เช่นกัน

เมื่อไหร่จะได้อัปเดต?

    • ช่วงเวลา: Google ยังไม่ได้ประกาศกำหนดเวลาที่แน่นอนสำหรับการอัปเดตฟีเจอร์นี้ในทุกรุ่น แต่คาดว่าจะทยอยปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดปี

    • ตรวจสอบการอัปเดต: เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่พลาดการอัปเดตนี้ ควรตรวจสอบการอัปเดตแอปพลิเคชันและระบบปฏิบัติการบนมือถือของคุณเป็นประจำ

สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติม

    • ความเร็วในการอัปเดต: ความเร็วในการได้รับการอัปเดตจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นมือถือ ผู้ผลิต และผู้ให้บริการเครือข่าย

    • ฟีเจอร์เพิ่มเติม: นอกจากฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมแล้ว Google อาจมีการเพิ่มฟีเจอร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยเข้ามาอีกด้วย

ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้เบต้าเกี่ยวกับฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมของ Android

ฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรม ของ Android ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์มือถือ แต่ก็ยังมีประเด็นที่น่าสนใจและข้อสงสัยจากทั้งผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้เบต้า ดังนี้

ข้อดีที่เห็นได้ชัด

    • เพิ่มความปลอดภัย: ลดโอกาสที่ข้อมูลส่วนตัวจะรั่วไหลไปสู่บุคคลที่สามในกรณีที่โทรศัพท์ถูกขโมย

    • ใช้งานง่าย: ฟีเจอร์นี้ทำงานโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องตั้งค่าอะไรมากนัก

    • ตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินได้รวดเร็ว: เมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ระบบจะล็อคอุปกรณ์ทันที

ข้อควรพิจารณาและข้อสงสัย

    • ความแม่นยำในการตรวจจับ: ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนกังวลว่าระบบอาจตรวจจับความผิดพลาดได้ เช่น การสั่นสะเทือนขณะอยู่ในกระเป๋า หรือการเคลื่อนไหวที่รุนแรงในขณะที่กำลังใช้งานโทรศัพท์ ทำให้เกิดการล็อคโดยไม่จำเป็น

    • การใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันอื่น: อาจมีผลกระทบต่อการทำงานของแอปพลิเคชันบางตัวที่ต้องการการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง

    • การหลบเลี่ยง: แฮ็กเกอร์อาจพัฒนาวิธีการหลบเลี่ยงระบบป้องกันนี้ได้ในอนาคต

ความคิดเห็นจากผู้ใช้เบต้า

    • ส่วนใหญ่พอใจ: ผู้ใช้เบต้าส่วนใหญ่รู้สึกพึงพอใจกับฟีเจอร์นี้และมองว่าเป็นการเพิ่มความอุ่นใจในการใช้งาน

    • ต้องการปรับปรุง: บางส่วนเสนอแนะให้มีการปรับปรุงความแม่นยำในการตรวจจับ และเพิ่มตัวเลือกในการตั้งค่าให้ละเอียดมากขึ้น เช่น การกำหนดระดับความไวของเซ็นเซอร์

บทสรุป

ฟีเจอร์ใหม่ของ Android ที่จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้นั้นครอบคลุมถึงการพัฒนาฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรม ซึ่งออกแบบมาเพื่อล็อคอุปกรณ์เมื่อพบการเคลื่อนไหวหรือกิจกรรมที่ผิดปกติ ฟีเจอร์นี้จะทำให้โทรศัพท์ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต ช่วยเพิ่มชั้นความปลอดภัยให้กับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ ของ Android เช่น การล็อคลายนิ้วมือ การเข้ารหัสข้อมูล และ Find My Device เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงป้องกันการรีเซ็ตค่าโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

ฟีเจอร์นี้ยังใช้ AI ในการเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับกิจกรรมที่น่าสงสัย และช่วยป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ถูกต้องอย่างรวดเร็ว โดยรวมแล้ว ฟีเจอร์นี้ถือเป็นการเสริมความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ Android และมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งนับเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับระบบปฏิบัติการอื่น ๆ เช่น iOS

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับความแม่นยำในการตรวจจับ และความสามารถในการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ผู้ใช้เบต้าได้แสดงความพึงพอใจกับฟีเจอร์นี้ แต่ยังต้องการให้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมในบางด้าน เช่น ความไวของการตรวจจับและการตั้งค่าที่ละเอียดมากขึ้น

ในท้ายที่สุด ฟีเจอร์ล็อคและป้องกันการโจรกรรมบน Android เป็นการพัฒนาที่จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวจากการถูกขโมยหรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

Loading...
Post ID: 16173 | TTT-WEBSITE | AFRA APACHE

Recommended For You

microsoft-logo
NEWS AND EVENTS Technology

Microsoft ยกระดับการค้นหาด้วย AI ของ Bing และ Bard

Bing อัปเดตใหม่ เข้าใจความตั้งใจของผู้ค้นหาได้ดีขึ้น Microsoft ประกาศ อัปเดต Bing และ Bard สองผลิตภัณฑ์ ค้นหา และปัญญา ประดิษฐ์ (AI) ของบริษัท โดยมุ่งเน้น เพิ่มศักยภาพ การค้นหา ด้วย AI
Game NEWS AND EVENTS

Wuthering Waves 2.1 ทุกอย่างที่คุณต้องรู้ก่อนปล่อยจริง 13 กุมภาพันธ์!

Wuthering Waves เวอร์ชัน 2.1 Waves Sing, and the Cerulean Bird Calls อัปเดตใหม่ 13 กุมภาพันธ์นี้! Wuthering Waves เตรียมปล่อยอัปเดตเวอร์ชัน 2.1 “Waves Sing,