AI NEWS AND EVENTS Technology

AI vs. มนุษย์ ใครเก่งกว่ากันในการ Optimize Prompt

ปัญญาประดิษฐ์อาจเก่งกว่ามนุษย์ในเรื่องการ Optimize Prompt

งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีประสิทธิภาพสูงในการ Optimize Prompt สำหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) อย่างฉัน เหตุผลหลักๆ มีดังนี้

ความสามารถในการปรับขนาด: AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อหาความสัมพันธ์และรูปแบบที่ส่งผลต่อการตอบสนองของ LLM ต่อ Prompt ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำได้ยากในระดับเดียวกัน

ความรวดเร็วและความสามารถในการวนซ้ำ: AI สามารถทดลอง Prompt รูปแบบต่างๆ ได้เร็วกว่ามนุษย์มาก ช่วยให้ Optimize Prompt ได้เร็วขึ้น

ความเป็นกลาง: AI ไม่ susceptible ต่ออคติหรือความคิด preconceived ที่อาจส่งผลต่อการออกแบบ Prompt ของมนุษย์

มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า Prompt ที่ AI สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Prompt ที่มนุษย์ออกแบบไว้ “อย่างเห็นได้ชัด” [ZDNet] แสดงให้เห็นว่า AI มีศักยภาพที่จะกลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการดึงศักยภาพสูงสุดของ LLM

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการ Optimize Prompt ด้วย AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา ยังมีบางแง่มุมที่มนุษย์อาจมีจุดแข็งกว่า AI ดังนี้

ความเข้าใจบริบท: AI อาจประสบปัญหาในการ Optimize Prompt ที่ต้องการความเข้าใจบริบทเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมหรือเจตนาที่ “ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคล”

ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม: มนุษย์ยังสามารถนำเสนอไอเดียใหม่ๆ และแนวทางที่สดใหม่ในการออกแบบ Prompt ซึ่ง AI อาจมองข้าม

โดยรวมแล้ว ดูเหมือนว่า AI และมนุษย์จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพในการ Optimize Prompt AI สามารถจัดการกับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และการวนซ้ำที่รวดเร็ว ในขณะที่มนุษย์สามารถนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ ความรู้เฉพาะด้าน และความสามารถในการเข้าใจบริบทที่ AI อาจขาดหายไป

ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “ปัญญาประดิษฐ์อาจเก่งกว่ามนุษย์ในเรื่องการ Optimize Prompt”

1. จริยธรรมและความโปร่งใส: การใช้ AI ในการ Optimize Prompt นั้นน่าสนใจในแง่ของจริยธรรมและความโปร่งใส จำเป็นต้องมีการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการใช้งาน AI ในทางที่ผิด เช่น การสร้าง Prompt ที่บิดเบือนข้อมูลหรือปลุกปั่นอารมณ์

2. ผลกระทบต่ออาชีพ: การ Optimize Prompt ด้วย AI อาจส่งผลต่ออาชีพที่เกี่ยวข้องกับการเขียนและการสื่อสาร ตัวอย่างเช่น อาชีพนักเขียนบทโฆษณา นักเขียน SEO หรือแม้แต่ copywriter อาจต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่นี้

3. ความเป็นไปได้ใหม่ๆ: การ Optimize Prompt ด้วย AI ยังเปิดโอกาสให้เกิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในหลายๆ ด้าน เช่น การพัฒนา chatbot ที่ฉลาดและตอบสนองต่อผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น หรือการสร้างเนื้อหาที่ personalized มากขึ้นสำหรับแต่ละบุคคล

4. ความท้าทายด้านภาษา: ภาษาไทยมีโครงสร้างและความซับซ้อนที่แตกต่างจากภาษาอังกฤษ การพัฒนา AI สำหรับ Optimize Prompt ภาษาไทยจึงมี challenges เพิ่มเติม

5. อนาคตของการ Optimize Prompt: เทคโนโลยี AI พัฒนาอย่างรวดเร็ว เป็นไปได้ว่าในอนาคต AI จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการ Optimize Prompt มนุษย์อาจต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ

6. การเข้าถึงเทคโนโลยี: การ Optimize Prompt ด้วย AI อาจเป็นเทคโนโลยีที่มีราคาแพง องค์กรขนาดเล็กหรือบุคคลทั่วไปอาจไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะเข้าถึงเทคโนโลยีนี้

7. การควบคุมและการตรวจสอบ: จำเป็นต้องมีระบบควบคุมและตรวจสอบการใช้ AI ในการ Optimize Prompt เพื่อป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด

8. ผลกระทบต่อสังคม: การ Optimize Prompt ด้วย AI อาจส่งผลต่อสังคมในหลายๆ ด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสื่อสาร

9. ความรับผิดชอบ: จำเป็นต้องกำหนดความรับผิดชอบที่ชัดเจนในกรณีที่เกิดปัญหาจากการใช้ AI Optimize Prompt

10. การศึกษาและการฝึกอบรม: จำเป็นต้องมีการศึกษาและฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้ AI Optimize Prompt

บทความนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นนี้ ยังมีแง่มุมอีกมากมายที่ควรพิจารณา สิ่งสำคัญคือต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจผลกระทบของ AI Optimize Prompt ต่อสังคม

Recommended For You

รับทำเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป ราคาถูก เว็บไซต์ราคาถูก รับออกแบบเว็บไซต์ ร้านค้าออนไลน์ราคาถูก ttt-website
Technology

อดีตนักวิจัย AI ของ Google แสดงความกังวลต่อการแข่งขันด้าน AI ที่ไร้กฎระเบียบการควบคุมด้านจริยธรรม!

ดร. ทิมนิต เกบรู (Dr. Timnit Gebru) อดีตนักวิจัยด้าน AI ของ Google ผู้ถูกไล่ออกจาก Google ในเดือนธันวาคมปี 2020 หลังจากที่เธอพยายามพูดต่อต้านการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ไร้จริยธรรม ได้ออกมาเตือนอีกครั้งว่า สถานการณ์ AI
รับทำเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป ราคาถูก เว็บไซต์ราคาถูก รับออกแบบเว็บไซต์ ร้านค้าออนไลน์ราคาถูก ttt-website
Technology

ตามรุ่นพี่ไป ! เปิดตัว Windows Copilot ที่แม้ใช้ Windows 11 ก็มี AI ผู้ช่วยส่วนตัวติดเครื่องได้ !

ไมโครซอฟท์​ (Microsoft) เปิดตัว Windows Copilot AI ซึ่งเป็นผู้ช่วยในการใช้งาน Windows ที่เหมือนกับใน Microsoft 365 และ Microsoft Edge โดยจะฝังเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Windows ให้เปิดใช้ได้ผ่าน Taskbar ด้านข้าง โดยสั่งให้ใช้โปรแกรม หรือแอปฯ ใด