AI NEWS AND EVENTS Protect Website Security recommend Technology Tourist ท่องเที่ยว

หลอกจองที่พัก Airbnb มาแรง! AI & Social Media อยู่เบื้องหลัง?

Airbnb เตือนภัย! มิจฉาชีพใช้ AI และโซเชียลมีเดีย หลอกจองที่พักช่วงวันหยุด

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว AI ได้ถูกนำมาใช้ในหลายด้านเพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม มันยังถูกใช้เป็นเครื่องมือโดยมิจฉาชีพในการสร้างกลโกงที่ซับซ้อนขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว Airbnb ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ Holiday Scams หรือการหลอกลวงการจองที่พักช่วงวันหยุด ที่ใช้ AI และโซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางหลักในการลวงเหยื่อ ทำให้เกิดความเสียหายทั้งในแง่ของการเงินและความปลอดภัยของนักเดินทาง

AI กับการหลอกลวงจองที่พัก มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีศักยภาพในการสร้าง ภาพปลอม (Deepfake), ข้อความ AI-generated และเว็บไซต์เลียนแบบ ทำให้การหลอกลวงมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น มิจฉาชีพใช้ AI ในหลายวิธี เช่น

  1. สร้างภาพที่พักปลอม – AI สามารถสร้างภาพที่ดูสมจริงจนแยกไม่ออกว่าเป็นของจริงหรือไม่ ทำให้เหยื่อเข้าใจผิดว่าเป็นที่พักจริง

  2. เขียนรีวิวปลอม – AI สามารถสร้างรีวิวเชิงบวกที่เหมือนจริง ทำให้ดูเหมือนที่พักนั้นมีผู้เข้าพักจริงและได้รับคะแนนสูง

  3. สร้างเว็บไซต์ปลอม – บางครั้งมิจฉาชีพใช้ AI ในการสร้างเว็บไซต์ที่คล้ายกับแพลตฟอร์มการจองที่พักที่น่าเชื่อถือ เช่น Airbnb, Booking.com หรือ Agoda

  4. แชทบอท AI ที่หลอกลวง – ผู้ใช้บางคนอาจถูกดึงเข้าไปคุยกับแชทบอทที่ใช้ AI เพื่อให้ข้อมูลที่ดูเหมือนเป็นจริง และโน้มน้าวให้ทำการจอง

วิธีการหลอกลวงที่พบบ่อยบนแพลตฟอร์มจองที่พัก

1. โฆษณาที่พักปลอมผ่านโซเชียลมีเดีย

มิจฉาชีพมักจะใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram และ TikTok เพื่อโฆษณาที่พักปลอม พร้อมส่วนลดพิเศษ หรือ ราคาที่ถูกกว่าปกติ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ทำการจองโดยเร็ว

2. เว็บไซต์ปลอมเลียนแบบ Airbnb และแพลตฟอร์มอื่น ๆ

เมื่อผู้ใช้คลิกลิงก์ที่แนบมากับโฆษณา มักจะถูกนำไปยัง เว็บไซต์ปลอม ที่ออกแบบให้ดูเหมือนเป็นแพลตฟอร์มจริง แต่เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อขโมยข้อมูลและเงินของเหยื่อ

3. รีวิวปลอมและบัญชีผู้ใช้ที่ไม่ใช่ของจริง

บางครั้งมิจฉาชีพใช้ บัญชีปลอม และ รีวิวที่สร้างจาก AI เพื่อทำให้ที่พักดูมีความน่าเชื่อถือสูง ผู้ใช้หลายคนมักเชื่อถือรีวิวและรูปภาพ จึงตกเป็นเหยื่อของกลโกงได้ง่ายขึ้น

4. การขอให้ชำระเงินนอกแพลตฟอร์ม

หนึ่งในสัญญาณเตือนสำคัญคือ การขอให้ชำระเงินโดยตรงผ่านการโอนเงินหรือช่องทางอื่น ๆ นอกแพลตฟอร์ม เช่น PayPal, Bitcoin หรือบัญชีธนาคารส่วนตัวของผู้ให้เช่าปลอม

สถิติที่น่าตกใจเกี่ยวกับ Holiday Scams

จากการสำรวจโดย Airbnb และองค์กร Get Safe Online พบว่า

  • 68% ของนักเดินทางเชื่อว่าตนเองสามารถแยกแยะที่พักปลอมจากของจริงได้ แต่เมื่อถูกทดสอบด้วยภาพจาก AI เกือบสองในสามไม่สามารถบอกความแตกต่างได้

  • ค่าเสียหายเฉลี่ยจากการหลอกลวงการจองที่พักเพิ่มขึ้นเป็น £1,937 (ประมาณ 90,000 บาท) ต่อกรณี

  • การหลอกลวงประเภทนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเทคโนโลยี AI ทำให้การสร้างคอนเทนต์ปลอมง่ายขึ้น

5 วิธีป้องกันตัวจากการหลอกลวงจองที่พัก

  1. จองผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ – ควรจองที่พักผ่านแพลตฟอร์มที่มีระบบความปลอดภัยสูง เช่น Airbnb, Booking.com หรือ Agoda

  2. ตรวจสอบรีวิวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ – ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก Google และอ่านรีวิวจากผู้เข้าพักจริงในหลายเว็บไซต์

  3. อย่าชำระเงินนอกแพลตฟอร์ม – Airbnb และแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือมีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการโอนเงินโดยตรง

  4. ตรวจสอบรูปภาพและรายละเอียด – ใช้เครื่องมืออย่าง Google Reverse Image Search เพื่อตรวจสอบว่าภาพที่พักถูกคัดลอกมาจากที่อื่นหรือไม่

  5. ระมัดระวังข้อเสนอที่ดีเกินจริง – หากราคาต่ำกว่าราคาตลาดมากเกินไป มีโอกาสสูงที่อาจเป็นการหลอกลวง

บทสรุป

การหลอกลวงจองที่พักโดยใช้ AI และโซเชียลมีเดียกำลังเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ นักเดินทางควรตระหนักถึงกลยุทธ์ที่มิจฉาชีพใช้ และตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบก่อนทำการจองเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

คุณเคยพบกับการหลอกลวงจองที่พักหรือไม่? แชร์ประสบการณ์ของคุณในคอมเมนต์ด้านล่าง เพื่อเตือนภัยและช่วยให้ผู้อื่นหลีกเลี่ยงกลโกงแบบนี้!

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีและความปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มเติมกับเรา เพื่อให้คุณไม่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง!

Loading...
Post ID: 24087 | TTT-WEBSITE | AFRA APACHE

Recommended For You

NEWS AND EVENTS Technology

ระวัง! ช่องโหว่ SnailLoad กระทบทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยช่วยให้แฮกเกอร์ส่องสอดผู้คนและส่งผลกระทบต่อทุกอุปกรณ์และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คุณพูดถูกที่กังวลเกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ทำให้อุปกรณ์เปราะบาง ภูมิทัศน์ทางอินเทอร์เน็ตพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และการโจมตีใหม่ๆ เช่น “SnailLoad” แสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดของผู้โจมตีในการหลีกเลี่ยงมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบดั้งเดิม ต่อไปนี้คือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาและขั้นตอนที่คุณสามารถดำเนินการเพื่อปกป้องตนเอง ภัยคุกคามจากการโจมตีแบบช่องทางข้างเคียง SnailLoad อยู่ในประเภทของการโจมตีที่เรียกว่าการโจมตีแบบช่องทางข้างเคียง การโจมตีเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้อง เช่น ความผันผวนของความเร็วการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของผู้ใช้ ต่างจากวิธีการดั้งเดิมที่ฉีดโค้ดที่เป็นอันตราย การโจมตีแบบช่องทางข้างเคียงอาจแอบแฝงได้มากกว่า เนื่องจากมักหลีกเลี่ยงซอฟต์แวร์ความปลอดภัยมาตรฐาน ช่องโหว่ที่แพร่หลาย ข้อกังวลที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับการโจมตีแบบช่องทางข้างเคียง
NEWS AND EVENTS Programming Protect Website Security Technology

BlueKeep กลับมาหลอน! เมื่อ Kimsuky ใช้เจาะระบบญี่ปุ่น-เกาหลี

กลุ่ม Kimsuky ใช้ช่องโหว่ BlueKeep เจาะระบบ RDP ในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ภัยคุกคามไซเบอร์ที่ไม่ควรมองข้าม ในโลกที่การโจมตีทางไซเบอร์กลายเป็นภัยคุกคามที่ใกล้ตัวกว่าที่เคย การกลับมาของช่องโหว่เก่าอย่าง BlueKeep (CVE-2019-0708) ได้สร้างความตกใจอีกครั้ง เมื่อล่าสุดมีรายงานว่ากลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่รู้จักกันในชื่อ Kimsuky ได้ใช้ช่องโหว่นี้ในการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ส่งผลกระทบต่อองค์กรภาครัฐและเอกชนจำนวนมาก แม้ช่องโหว่ BlueKeep จะถูกเปิดเผยตั้งแต่ปี