NEWS AND EVENTS Space พบหลุมดำมหึมามวล 33 เท่าดวงอาทิตย์ ใกล้โลกแค่เอื้อม! April 17, 2024 นักดาราศาสตร์ค้นพบหลุมดำมหึมามวล 33 เท่าของดวงอาทิตย์ ใกล้โลก!ท่ามกลางความกว้างใหญ่ไพศาลของอวกาศ นักดาราศาสตร์เพิ่งค้นพบวัตถุอวกาศที่น่าทึ่ง นั่นคือ หลุมดำมวลยิ่งยวด มหึมาที่ชื่อว่า Gaia BH3 ตั้งอยู่ในกาแล็กซีทางช้างเผือกของเราเอง หลุมดำมหึมานี้มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเราถึง 33 เท่า กลายเป็นแชมป์มวยรุ่นเฮฟวี่เวทของหลุมดำดาวฤกษ์ในกาแล็กซีของเรา แซงหน้าหลุมดำดาวฤกษ์อื่นๆ ที่ค้นพบมาทั้งหมด ยกเว้น หลุมดำมวลยิ่งยวด ที่อยู่ใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือก น่าสนใจว่าแม้จะมีขนาดมหึมา แต่ Gaia BH3 ก็อยู่ใกล้โลกพอสมควร เมื่อวัดระยะทางจากโลกอยู่ที่ประมาณ 1,926 ปีแสง ทำให้กลายเป็นหลุมดำที่อยู่ใกล้โลกเป็นอันดับสอง การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญทางดาราศาสตร์ เพราะช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของหลุมดำได้ดียิ่งขึ้น หลุมดำคือวัตถุอวกาศที่มีแรงโน้มถ่วงมหาศาล มวลของมันอัดแน่นจนความเร็วหนีพ้นแรงดึงดูดนั้นเร็วกว่าแสง แม้กระทั่งแสงยังไม่สามารถหนีรอดพ้นจากแรงดึงดูดของมันได้ นักดาราศาสตร์ค้นพบ Gaia BH3 โดยการศึกษาการโค้งงอของแสงจากดาวฤกษ์คู่หู แรงดึงดูดอันมหาศาลของ Gaia BH3 บิดเบือนกาลอวกาศรอบตัว ทำให้แสงจากดาวฤกษ์คู่หูโค้งงอไป นักดาราศาสตร์สามารถวัดการโค้งงอของแสงนี้เพื่อคำนวณมวลของ Gaia BH3 ได้ การค้นพบ Gaia BH3 ยังช่วยให้นักดาราศาสตร์คาดเดาจำนวนหลุมดำในกาแล็กซีทางช้างเผือกได้ดีขึ้น คาดว่ามีหลุมดำมวลยิ่งยวดหลายพันล้านดวงแฝงตัวอยู่ในกาแล็กซีของเรา การค้นพบ Gaia BH3 แสดงให้เห็นว่าหลุมดำเหล่านี้บางส่วนอาจอยู่ใกล้โลกมากกว่าที่เราคิดไว้ การค้นพบนี้ยังเปิดประตูสู่การศึกษาหลุมดำในอนาคต นักดาราศาสตร์สามารถใช้เทคนิคที่คล้ายคลึงกันนี้เพื่อค้นหาหลุมดำอื่นๆ ในกาแล็กซีของเรา การศึกษาหลุมดำเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของแรงโน้มถ่วงและโครงสร้างของจักรวาลได้ดียิ่งขึ้น กล้องโทรทรรศน์อวกาศที่ใช้ศึกษา Gaia BH3จริงอยู่ว่านักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศหลายตัวเพื่อศึกษา Gaia BH3 กล้องโทรทรรศน์แต่ละตัวมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน ช่วยให้นักดาราศาสตร์สามารถมองเห็นหลุมดำนี้ในมุมมองที่หลากหลาย กล้องโทรทรรศน์อวกาศ Chandra X-ray Observatoryกล้องโทรทรรศน์รังสีเอกซ์นี้สามารถมองเห็นรังสีเอกซ์ที่ปล่อยออกมาจากวัตถุร้อนจัด เช่น ดาวฤกษ์ที่กำลังเผาไหม้ หลุมดำ และซุปเปอร์โนวาข้อมูลรังสีเอกซ์จาก Chandra ช่วยให้นักดาราศาสตร์ศึกษาโครงสร้างและสภาพแวดล้อมของ Gaia BH3 ได้ดีขึ้นตัวอย่างเช่น ข้อมูล Chandra แสดงให้เห็นว่า Gaia BH3 มีดิสก์เรืองแสงร้อนจัดที่ล้อมรอบ ซึ่งอาจเกิดจากแรงเสียดทานระหว่างมวลที่ตกลงสู่หลุมดำ กล้องโทรทรรศน์อวกาศ Hubbleกล้องโทรทรรศน์อวกาศนี้สามารถมองเห็นแสงที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและแสงอัลตราไวโอเลตข้อมูลแสงจาก Hubble ช่วยให้นักดาราศาสตร์ศึกษาดาวฤกษ์คู่หูของ Gaia BH3 ได้ดีขึ้นตัวอย่างเช่น ข้อมูล Hubble แสดงให้เห็นว่าดาวฤกษ์คู่หูมีรูปร่างผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากแรงโน้มถ่วงของ Gaia BH3 กล้องโทรทรรศน์อวกาศ Spitzer Space Telescopeกล้องโทรทรรศน์อวกาศนี้สามารถมองเห็นแสงอินฟราเรดข้อมูลอินฟราเรดจาก Spitzer ช่วยให้นักดาราศาสตร์ศึกษาฝุ่นและก๊าซรอบๆ Gaia BH3 ได้ดีขึ้นตัวอย่างเช่น ข้อมูล Spitzer แสดงให้เห็นว่า Gaia BH3 ล้อมรอบไปด้วยเมฆฝุ่นหนา ซึ่งอาจบดบังการมองเห็นหลุมดำในแสงที่มองเห็นได้ Gaia BH3 อยู่ในกลุ่มดาวนกอินทรี กลุ่มดาวนี้ตั้งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 1,926 ปีแสงการค้นพบ Gaia BH3 นั้นน่าทึ่งมาก เพราะมันเป็นหลุมดำดาวฤกษ์ (Stellar Black Hole) ที่ใกล้โลกเป็นอันดับสอง รองจากหลุมดำ V404 Cygni ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 7,800 ปีแสงการค้นพบ Gaia BH3 นี้ยังช่วยให้นักดาราศาสตร์คาดเดาจำนวนหลุมดำในกาแล็กซีทางช้างเผือกได้ดีขึ้น คาดว่ามีหลุมดำมวลยิ่งยวดหลายพันล้านดวงแฝงตัวอยู่ในกาแล็กซีของเรา การค้นพบ Gaia BH3 แสดงให้เห็นว่าหลุมดำเหล่านี้บางส่วนอาจอยู่ใกล้โลกมากกว่าที่เราคิดไว้การค้นพบนี้ยังเปิดประตูสู่การศึกษาหลุมดำในอนาคต นักดาราศาสตร์สามารถใช้เทคนิคที่คล้ายคลึงกันนี้เพื่อค้นหาหลุมดำอื่นๆ ในกาแล็กซีของเรา การศึกษาหลุมดำเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของแรงโน้มถ่วงและโครงสร้างของจักรวาลได้ดียิ่งขึ้น ดาวฤกษ์คู่หูของ Gaia BH3 มีมวลประมาณ 17 เท่าของดวงอาทิตย์จากข้อมูลที่นักดาราศาสตร์ค้นพบ ดาวฤกษ์คู่หูนี้มีมวลมากกว่าดาวฤกษ์ปกติทั่วไปมาก ดาวฤกษ์ปกติจะมีมวลประมาณ 0.1 ถึง 100 เท่าของดวงอาทิตย์ มวลที่มากกว่าปกติของดาวฤกษ์คู่หูนี้ ทำให้มันมีแรงดึงดูดที่รุนแรงพอที่จะดึงดูด Gaia BH3 ให้โคจรรอบมันได้นักดาราศาสตร์เชื่อว่าดาวฤกษ์คู่หูและ Gaia BH3 เคยเป็นดาวฤกษ์คู่ที่อยู่ใกล้ชิดกันมาก เมื่อเวลาผ่านไป ดาวฤกษ์ดวงหนึ่งยุบตัวลงกลายเป็นหลุมดำ Gaia BH3 ดาวฤกษ์คู่หูที่เหลืออยู่ยังคงโคจรรอบหลุมดำนี้การศึกษา Gaia BH3 และดาวฤกษ์คู่หู จะช่วยให้นักดาราศาสตร์เข้าใจวิวัฒนาการของหลุมดำและดาวฤกษ์ได้ดียิ่งขึ้น การค้นพบนี้ยังช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของแรงโน้มถ่วงและโครงสร้างของจักรวาลได้ดียิ่งขึ้น Post Views: 572 Loading... Post ID: 11525 | TTT-WEBSITE | AFRA APACHE