NEWS AND EVENTS Protect Website Security recommend Technology

ตลาดคริปโตป่วน! ทรัมป์ประกาศนโยบายใหม่ ทำมูลค่าหายไปกว่า $500B

ตลาดคริปโตป่วน! การประกาศของทรัมป์ทำให้มูลค่าหายไปกว่าครึ่งล้านล้านดอลลาร์

วงการคริปโตเคอร์เรนซีกำลังเผชิญกับความวุ่นวายครั้งใหญ่ หลังจากการประกาศนโยบายของ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำให้ตลาดสูญเสียมูลค่ากว่า 500 พันล้านดอลลาร์ ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง นี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสกุลเงินดิจิทัลครั้งใหญ่ที่สุดในปี 2025

เกิดอะไรขึ้นกับตลาดคริปโต?

ตลาดคริปโตเผชิญกับการเทขายครั้งใหญ่หลังจาก ทรัมป์ประกาศนโยบายเศรษฐกิจใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับ ภาษีนำเข้า และ มาตรการทางการเงิน ซึ่งสร้างความกังวลต่อนักลงทุน โดยเฉพาะในกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) และ Altcoins อื่น ๆ

ประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบ

  1. ภาษีนำเข้าจากจีน แคนาดา และเม็กซิโก – ทรัมป์ประกาศ ภาษีนำเข้าใหม่ ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและต้นทุนธุรกิจที่เพิ่มขึ้น

  2. เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น – นักลงทุนเริ่ม โยกเงินกลับไปถือครองเงินสด และพันธบัตร ทำให้คริปโตถูกเทขาย

  3. ความไม่แน่นอนด้านกฎหมาย – มีความเสี่ยงเกี่ยวกับ กฎระเบียบใหม่ที่อาจควบคุมตลาดคริปโตอย่างเข้มงวดขึ้น

Bitcoin และ Ethereum ร่วงหนัก!

หลังจากการประกาศของทรัมป์ Bitcoin (BTC) ร่วงลงกว่า 4.1% มาอยู่ที่ประมาณ $95,400 ในขณะที่ Ethereum (ETH) ลดลงถึง 17% มาอยู่ที่ $2,577 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบหลายเดือน

ผลกระทบต่อสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ

  • BNB (Binance Coin) ลดลง 14%

  • Solana (SOL) สูญเสียมูลค่ากว่า 22%

  • Cardano (ADA) และ XRP ต่างลดลงมากกว่า 15%

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ตลาดคริปโตในปี 2025 อาจเผชิญกับความผันผวนสูง และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดแนวโน้มของราคา

มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ

นักวิเคราะห์ตลาดการเงินกล่าวว่า

“นักลงทุนกำลังตอบสนองต่อนโยบายของทรัมป์โดยการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโต”Mohit Kumar, Jefferies Group

นักวิเคราะห์จาก JP Morgan เชื่อว่าการเทขายครั้งนี้เป็นผลมาจาก ความกลัวเรื่องกฎหมายคริปโตที่เข้มงวดขึ้น และภาษีที่อาจส่งผลต่อการทำกำไรของนักลงทุนรายใหญ่

แนวโน้มของตลาดคริปโตในอนาคต

แม้ว่าตลาดจะเผชิญกับการร่วงลงครั้งใหญ่ แต่นักลงทุนบางส่วนเชื่อว่านี่อาจเป็น โอกาสในการเข้าซื้อ เนื่องจาก

  • ตลาดอาจฟื้นตัวได้หากมีความชัดเจนเกี่ยวกับกฎระเบียบใหม่

  • Bitcoin Halving กำลังใกล้เข้ามา ซึ่งเป็นปัจจัยเชิงบวกที่อาจช่วยกระตุ้นราคา

  • สถาบันการเงินรายใหญ่ยังคงถือครองคริปโตในระดับสูง

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควร ติดตามข่าวสาร และวิเคราะห์แนวโน้มอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

ข้อควรระวังสำหรับนักลงทุน

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับกฎหมายและนโยบายของรัฐบาล – ตลาดคริปโตได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจและกฎหมาย

บริหารความเสี่ยงและกระจายพอร์ตการลงทุน – หลีกเลี่ยงการถือครองคริปโตทั้งหมดในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง

ใช้กลยุทธ์ DCA (Dollar-Cost Averaging) – หากคุณเชื่อว่าตลาดคริปโตมีโอกาสฟื้นตัว การทยอยซื้อที่ราคาต่ำอาจช่วยลดความเสี่ยง

สรุป ควรลงทุนในตลาดคริปโตตอนนี้หรือไม่?

ตลาดคริปโตยังคงมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนโยบายใหม่ของทรัมป์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระยะยาวที่มองหาโอกาสในการเข้าซื้ออาจใช้ช่วงเวลานี้ในการ วิเคราะห์แนวโน้มระยะยาว และเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ

คุณคิดว่า Bitcoin จะฟื้นตัวจากเหตุการณ์นี้หรือไม่? คอมเมนต์ด้านล่างและร่วมพูดคุยกับนักลงทุนคนอื่น ๆ!

กดติดตามเพื่ออัปเดตข่าวสารตลาดคริปโตแบบเรียลไทม์!

Loading...
Post ID: 23675 | TTT-WEBSITE | AFRA APACHE

Recommended For You

Game NEWS AND EVENTS

Marvel Rivals เผยโฉม Gladiator Skin สำหรับ Captain America

Captain America กับ Gladiator Skin ใหม่ใน Marvel Rivals ที่ทุกคนต้องจับตา! เกมใหม่ล่าสุดที่ทุกคนรอคอยอย่าง Marvel Rivals ได้สร้างกระแสฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการเปิดเผยสกินใหม่สำหรับ Captain America ในธีม Gladiator สุดอลังการ ซึ่งเตรียมให้ผู้เล่นได้สัมผัสเมื่อเกมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่
NEWS AND EVENTS Protect Website Security Technology

Why Google Bought Wiz for £24.7bn ทำไมมันถึงสำคัญกับ Cloud Security?

Google Owner to Buy Cybersecurity Firm Wiz for £24.7bn: บทบาทของการเข้าซื้อกิจการในวงการไซเบอร์และอนาคตของ Google ในโลกที่เทคโนโลยีและข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญ การรักษาความปลอดภัยในโลกออนไลน์ก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ด้วยการเติบโตของภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน การลงทุนในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) จึงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่สำหรับบริษัทที่มุ่งมั่นจะครองตลาดเทคโนโลยีในอนาคต เช่นเดียวกับการที่ Google ได้ประกาศแผนการซื้อกิจการของบริษัท