เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 คณะลูกขุนในซานฟรานซิสโกได้ตัดสินว่า Google ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดด้วยการบังคับให้นักพัฒนาแอปบน Android จ่ายค่าธรรมเนียม 30% สำหรับการซื้อในแอปผ่าน Google Play Store
คดีนี้ถูกฟ้องร้องโดย Epic Games ผู้พัฒนาเกมชื่อดังอย่าง Fortnite โดย Epic Games อ้างว่า Google ใช้อำนาจเหนือตลาด Android เพื่อบังคับให้นักพัฒนาแอปจ่ายค่าธรรมเนียม 30% ซึ่งสูงกว่าค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บโดย App Store ของ Apple
คณะลูกขุนตัดสินว่า Google มีอำนาจเหนือตลาด Android และว่า Google ใช้อำนาจนี้เพื่อผูกขาดตลาดการซื้อในแอปบน Android การตัดสินนี้ถือเป็นชัยชนะ ครั้งสำคัญสำหรับ Epic Games และสำหรับนักพัฒนาแอปบน Android โดยทั่วไป การตัดสินนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง กฎระเบียบในตลาดแอป ซึ่งอาจนำไปสู่การลดค่าธรรมเนียมการซื้อในแอป และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค
ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้
ข้อกล่าวหาของ Epic Games
Epic Games อ้างว่า Google ใช้อำนาจเหนือตลาด Android เพื่อบังคับให้นักพัฒนาแอป จ่ายค่าธรรมเนียม 30% สำหรับการซื้อในแอปผ่าน Google Play Store ทาง Google Play Store นั้น ผู้ใช้ Android สามารถใช้บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต เพื่อซื้อไอเทมในแอป เช่น ไอเท็มในเกม เนื้อหาดิจิทัล และสมาชิกภาพ
Epic Games อ้างว่า Google กำหนดให้นักพัฒนาแอปใช้ Google Play Store เท่านั้นเพื่อขายไอเทมในแอป และ Google เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 30% สำหรับการซื้อทั้งหมดที่ทำผ่าน Google Play Store
Epic Games อ้างว่าค่าธรรมเนียม 30% นั้นสูงเกินไป และว่า Google ใช้อำนาจเหนือตลาด Android เพื่อบังคับให้นักพัฒนาแอปจ่ายค่าธรรมเนียมนี้
คำตัดสินของคณะลูกขุน
คณะลูกขุนตัดสินว่า Google มีอำนาจเหนือตลาด Android และว่า Google ใช้อำนาจนี้เพื่อผูกขาดตลาดการซื้อในแอปบน Android
คณะลูกขุนตัดสินว่า Google กำหนดให้นักพัฒนาแอปใช้ Google Play Store เท่านั้นเพื่อขายไอเทมในแอป และว่า Google เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 30% สำหรับการซื้อทั้งหมดที่ทำผ่าน Google Play Store
คณะลูกขุนตัดสินว่าค่าธรรมเนียม 30% นั้นสูงเกินไป และว่า Google ใช้อำนาจเหนือตลาด Android เพื่อบังคับให้นักพัฒนาแอปจ่ายค่าธรรมเนียมนี้