AI Blog Green & Carbon Technology NEWS AND EVENTS Technology

AI ปล่อยคาร์บอนสูงขนาดนี้จริงหรือ? ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่น่ากังวล

AI ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: เมื่อเทคโนโลยีล้ำสมัยกลายเป็นภัยเงียบที่ส่งผลต่อโลก

ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวเข้าสู่ชีวิตประจำวันของเราอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการช่วยวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างสรรค์ผลงาน หรือการให้คำแนะนำผ่านเครื่องมือออนไลน์ ความสะดวกสบายที่ AI มอบให้นั้นดูเหมือนจะกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตเราไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การวิจัยล่าสุดได้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบทางลบของ AI ต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจถูกมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการใช้พลังงานที่สูงมากในการฝึกโมเดล AI

AI และปริมาณการใช้พลังงานที่สูงขึ้น

การพัฒนา AI โดยเฉพาะระบบที่ซับซ้อนและต้องการการประมวลผลมหาศาล เช่น โมเดลภาษาใหญ่ (Large Language Models) และโมเดลการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) นั้นจำเป็นต้องใช้ข้อมูลปริมาณมากและการคำนวณที่ละเอียด แม้จะมีความสามารถสูงในการวิเคราะห์ข้อมูลและตอบคำถาม แต่ AI เหล่านี้กลับใช้พลังงานมากขึ้นในการฝึกและดำเนินงาน ตัวอย่างเช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่เพียงครั้งเดียวอาจใช้พลังงานไฟฟ้ามหาศาล ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้พลังงานในบ้านเรือนหลายพันหลังในหนึ่งปี

การปล่อยก๊าซคาร์บอนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

หนึ่งในปัญหาหลักที่ AI ก่อให้เกิดคือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนขึ้น การศึกษาพบว่าการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่นั้นอาจปล่อยก๊าซ CO₂ ออกมาในปริมาณที่ใกล้เคียงกับการขับรถยนต์ระยะทางหลายล้านกิโลเมตร ซึ่งก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่อง ปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่ในบริบทของสิ่งแวดล้อมเพราะพลังงานที่ใช้นั้นมักมาจากแหล่งพลังงานฟอสซิล ทำให้ผลกระทบยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

การใช้ทรัพยากรน้ำ

การฝึก AI ยังใช้ทรัพยากรน้ำในปริมาณสูงเนื่องจากต้องใช้ในการระบายความร้อนของเครื่องจักรและอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ แม้ว่าบางสถานที่จะพยายามหาแหล่งน้ำที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ความต้องการน้ำที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นภาระอย่างมากต่อแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของชุมชนและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง

ความจำเป็นในการพัฒนา AI ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แม้ว่า AI จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในด้านธุรกิจ การแพทย์ การศึกษา และวงการอื่น ๆ ที่หลากหลาย แต่ก็จำเป็นต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น อุตสาหกรรม AI ควรพัฒนาโมเดลที่ใช้พลังงานน้อยลง มีการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และควรพึ่งพาแหล่งพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม

มาตรการในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นักวิจัยและบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งได้เริ่มหันมาพัฒนาวิธีการเพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและการนำปัญญาประดิษฐ์ที่มีความต้องการพลังงานต่ำมาใช้ในการประมวลผลทั่วไป นอกจากนี้ การออกแบบระบบที่สามารถรีไซเคิลพลังงานหรือสร้างเครือข่ายการใช้พลังงานร่วมกันระหว่างศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ที่ใกล้เคียงกันก็เป็นอีกแนวทางที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้

การใช้เทคโนโลยี AI อย่างมีความรับผิดชอบและตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งสำคัญในการลดภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เราควรตระหนักว่าแม้ AI จะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตของเรา แต่อุตสาหกรรมและชุมชนต้องร่วมมือกันในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ยั่งยืนเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้คงอยู่ในระยะยาว

Loading...
Post ID: 19639 | TTT-WEBSITE | AFRA APACHE

Recommended For You

Blog NEWS AND EVENTS Protect Website Security Technology

NCA และแพลตฟอร์มโซเชียลฯ ร่วมมือกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์

NCA ลบกว่า 8,000 บัญชีโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงกับการลักลอบขนคนข้ามแดน – การกวาดล้างครั้งใหญ่เพื่อป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ การลักลอบขนคนเข้าเมืองผิดกฎหมายยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ทั่วโลกต้องเผชิญ ล่าสุด หน่วยงานอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NCA) ได้ดำเนินการลบบัญชีโซเชียลมีเดียมากกว่า 8,000 บัญชี ที่ถูกใช้ในการโฆษณาบริการผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการที่ใหญ่ที่สุดในการกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติบนแพลตฟอร์มออนไลน์ การดำเนินงานของ NCA และความร่วมมือกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย การกวาดล้างครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่าง NCA
รับทำเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป ราคาถูก เว็บไซต์ราคาถูก รับออกแบบเว็บไซต์ ร้านค้าออนไลน์ราคาถูก ttt-website
Technology

ภาระจะตกมาที่ผู้บริโภค ค่ายเพลงเห็นพ้องตรงกัน Spotify ควรขึ้นราคาได้แล้ว

จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องรัดเข็มขัด และลดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ช่องทางหนึ่งที่สามารถเพิ่มรายได้แบบทันท่วงทีคือ ขึ้นราคาสมัครสมาชิกรายเดือน ล่าสุดค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ต่างส่งสัญญาณให้ Spotify ควรขึ้นราคารายเดือนได้แล้ว เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นมาจาก ลูเซียน เกรนจ์ (Lucian Grainge) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Universal Music Group ได้ส่งจดหมายถึงพนักงานบริษัทว่า “รูปแบบธุรกิจเพลงในปัจจุบันจำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง”