เกม Cult of the Lamb ถอดออกจากร้านค้า

Unity เจอต้าน! เกม Cult of the Lamb ถอดออกจากร้านค้าหากค่าธรรมเนียมไม่ยกเลิก

Unity เตรียมเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการติดตั้งเกมครั้งแรก เกม Cult of the Lamb จะถอดออกจากร้านค้าหากค่าธรรมเนียมไม่ยกเลิก

Unity ประกาศ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 ว่าจะเริ่ม เรียกเก็บ ค่าธรรมเนียม 0.20 USD (0.33 บาท) จากนักพัฒนา สำหรับเกมที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์มมือถือและพีซี เดิมทีค่าธรรมเนียมนี้ จะมีขึ้น สำหรับทุกๆ การติดตั้งใหม่ แต่หลังจาก การตอบรับเชิงลบ จากอุตสาหกรรมเกม Unity ได้เปลี่ยน นโยบายใหม่ โดยจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม เฉพาะการติดตั้ง ครั้งแรก เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นโยบายใหม่นี้ ยังคง ไม่เป็นที่พอใจ ของหลายฝ่าย และทีมพัฒนา เกม Cult of the Lamb ของ Massive Monster ได้ออกมา ประกาศว่า พวกเขา จะถอดเกม ออกจากร้านค้า หาก Unity ไม่ยกเลิก ค่าธรรมเนียม ดังกล่าว

Buy Cult of the Lamb now, cause we're deleting it on Jan 1st. 😘 https://t.co/nSWg9DP0sh
— Cult of the Lamb (@cultofthelamb) September 12, 2023

“Unity กำลังแนะนำ ค่าธรรมเนียม รันไทม์ ที่ขึ้นอยู่กับ การติดตั้งเกม” Massive Monster กล่าว “ทีมของเรา เชี่ยวชาญ ด้านเกม Unity เรามีโปรเจ็กต์ ในอนาคต ที่วางแผน จะพัฒนาด้วย Unity การเปลี่ยนแปลงนี้ จะทำให้เกิด ความล่าช้า อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก ทีมของเรา จะต้อง acquire ทักษะใหม่ ทั้งหมด”

ทักษะใหม่ๆ ที่ Massive Monster กล่าวถึง คือการพัฒนา ด้วยเอนจิ้น เกมใหม่ เนื่องจาก นักพัฒนา และสำนักพิมพ์ หลายแห่ง กำลังยกเลิก การใช้ Unity ทั้งหมด หลังจาก การประกาศนี้

Unity วางแผน ที่จะเริ่ม ใช้นโยบายใหม่นี้ ในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งหมายความว่า เกม Cult of the Lamb จะถูกถอด ออกจาก ร้านค้า ในวันที่ 1 มกราคม 2024 หากนโยบายนี้ ไม่ได้รับ การยกเลิก คุณจะยังสามารถ เล่นเกมได้ หากคุณมีสำเนา (ตัวเกม ที่คุณซื้อ เอาไว้แล้ว) อยู่แล้ว แต่คุณจะ ไม่สามารถ ซื้อได้อีก ต่อไป

“ภารกิจ ของเรา ที่ Massive Monster คือการสนับสนุน และส่งเสริม เกมอินดี้ใหม่ๆ และที่กำลังพัฒนา” ทีมพัฒนากล่าว “การแนะนำ ค่าธรรมเนียม เหล่านี้ โดย Unity อาจทำให้ เกิดความท้าทาย อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับนักพัฒนา ที่ใฝ่ฝัน (ฝึกใช้โปรแกรม เอนจิ้น ตัวอื่น)”

Devolver Digital ทวีตว่า “อย่าลืม ระบุเอนจิ้น ที่คุณใช้ในงาน นำเสนอเกม ข้อมูลนี้ สำคัญมาก!” หลายคน ตีความว่า นักพัฒนา และสำนักพิมพ์ต่างๆ กำลังหลีกเลี่ยง การใช้ Unity ซึ่งอาจ ส่งผลกระทบ อย่างใหญ่หลวง ต่อนักพัฒนาอินดี้ โดยเฉพาะ those with projects in development yet to find a publisher.

NEW - I got a major update from Unity about their new fees
- Unity "regrouped" and now says ONLY the initial installation of a game triggers a fee
- Demos mostly won't trigger fees
- Devs not on the hook for Game Pass

More here:https://t.co/GCKjEeFtYR
— Stephen Totilo (@stephentotilo) September 13, 2023

การเปลี่ยนแปลง ของ Unity อาจส่งผล กระทบ ต่อบริการ สมัครสมาชิกเกมด้วย ตามรายงาน ของ Stephen Totilo จาก Axios “นักพัฒนา [ไม่ได้] รับผิดชอบ ต่อ Game Pass” ซึ่งหมายความว่า Microsoft จะต้องจ่าย ค่าธรรมเนียม การติดตั้ง แทนนักพัฒนา

สิ่งนี้ อาจทำให้ Microsoft และเจ้าของ การสมัครสมาชิก รายอื่นๆ เช่น PlayStation หลีกเลี่ยงเกม ที่พัฒนาด้วย Unity ทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยง ค่าใช้จ่าย เพิ่มเติม ในการโฮสต์เกม บนแพลตฟอร์ม ของตน

ผลกระทบต่อนักพัฒนาอินดี้

การเปลี่ยนแปลง ของ Unity อาจส่งผลกระทบ อย่างใหญ่หลวง ต่อนักพัฒนาอินดี้ เนื่องจาก Unity เป็นเอนจิ้นเกม ที่ได้รับ ความนิยม อย่างมาก สำหรับนักพัฒนาอิสระ การเปลี่ยนแปลงนี้ อาจทำให้ นักพัฒนาอินดี้ ต้องเสียเงิน มากขึ้น ในการเริ่มต้น หรือขยายธุรกิจ ของตน

ตัวอย่างเช่น นักพัฒนาอินดี้ ที่ใช้ Unity ในการพัฒนา เกมใหม่ จะต้อง สร้างรายได้ มากกว่าเดิม เพื่อชดเชย ค่าธรรมเนียม การติดตั้ง สิ่งนี้ อาจทำให้ พวกเขาต้อง เพิ่มราคาเกม หรือหาแหล่งทุน เพิ่มเติม

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ อาจทำให้ นักพัฒนาอินดี้ ต้องย้ายไปใช้ เอนจิ้นเกมอื่น ซึ่งอาจทำให้ พวกเขา เสียเวลา และความพยายาม ในการเรียนรู้ เอนจิ้นใหม่

ผลกระทบต่อบริการสมัครสมาชิกเกม

การเปลี่ยนแปลง ของ Unity อาจส่งผลกระทบ ต่อบริการ สมัครสมาชิกเกมด้วย ตัวอย่างเช่น Microsoft อาจหลีกเลี่ยง เกมที่พัฒนา ด้วย Unity ทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยง ค่าใช้จ่าย เพิ่มเติม ในการโฮสต์เกม บนแพลตฟอร์ม ของตน

สิ่งนี้ อาจทำให้ ผู้บริโภค มีตัวเลือก เกมน้อยลง ในการสมัครสมาชิกเกม ของพวกเขา และอาจทำให้ พวกเขา ตัดสินใจ ยกเลิก การสมัครสมาชิก

ผลกระทบต่อผู้บริโภค

การเปลี่ยนแปลง ของ Unity อาจส่งผลกระทบ ต่อผู้บริโภค เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภค อาจต้อง จ่ายเงิน มากขึ้น สำหรับเกม ที่พัฒนาด้วย Unity เนื่องจาก นักพัฒนา อาจต้องเพิ่ม ราคาเกม เพื่อชดเชย ค่าธรรมเนียม การติดตั้ง

นอกจากนี้ ผู้บริโภค อาจต้องเผชิญ กับตัวเลือกเกม ที่จำกัด มากขึ้น เนื่องจาก นักพัฒนา อาจย้าย ไปใช้เอนจิ้น เกมอื่น

สรุป

การเปลี่ยนแปลง ของ Unity อาจเป็น ประเด็นสำคัญ ในอุตสาหกรรมเกม การเปลี่ยนแปลงนี้ อาจส่งผลกระทบ ต่อนักพัฒนา สำนักพิมพ์ และผู้บริโภค ในวงกว้าง

Post Views: 742