NEWS AND EVENTS Technology

อัปเดต Windows 11 Microsoft เตรียมบอกลา Control Panel อย่างถาวร

Microsoft เตรียมยกเลิกฟีเจอร์ ‘Control Panel’

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นกับ Windows

Microsoft ประกาศการตัดสินใจที่จะยกเลิกหนึ่งในฟีเจอร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของระบบปฏิบัติการ Windows นั่นคือ ‘Control Panel’ ที่ถูกใช้งานมาตลอดเกือบ 40 ปี ฟีเจอร์นี้เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยในหมู่ผู้ใช้ Windows โดยทำหน้าที่ในการจัดการการตั้งค่า การถอนการติดตั้งโปรแกรม และการปรับแต่งระบบ อย่างไรก็ตาม Microsoft กำลังจะย้ายฟังก์ชันเหล่านี้ไปยังแอป ‘Settings’ ที่ทันสมัยและใช้งานง่ายมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Microsoft เปิดตัว Windows 10 ซึ่งมีการแนะนำแอป ‘Settings’ เพื่อทดแทน ‘Control Panel’ แต่ ‘Control Panel’ ยังคงมีให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบอินเทอร์เฟซแบบเดิมๆ อย่างไรก็ตาม ในการอัปเดต Windows 11 ที่กำลังจะมา Microsoft จะก้าวไปอีกขั้นโดยการยกเลิก ‘Control Panel’ อย่างสิ้นเชิง เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เป็นเอกภาพและลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

microsoft-logo-02

มรดกของ Control Panel

‘Control Panel’ เป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับผู้ใช้ Windows ทำหน้าที่เป็นประตูสู่การตั้งค่าและการกำหนดค่าต่างๆ ในระบบ เปิดตัวครั้งแรกใน Windows 2.0 ในปี 1987 มันให้ผู้ใช้สามารถจัดการระบบผ่านอินเทอร์เฟซกราฟิก ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากเครื่องมือคำสั่งที่ใช้ก่อนหน้านี้ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ‘Control Panel’ กลายเป็นสถานที่หลักในการจัดการตั้งแต่การติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไปจนถึงการตั้งค่าเครือข่ายและบัญชีผู้ใช้

เมื่อ Windows พัฒนาขึ้น ‘Control Panel’ ก็ได้รับการขยายขีดความสามารถมากขึ้น และกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ผู้ใช้ทุกระดับใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ทั่วไปหรือผู้เชี่ยวชาญด้าน IT

การขึ้นมาของแอป Settings

การแนะนำแอป ‘Settings’ ใน Windows 8 ถือเป็นการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงสู่การใช้งานอินเทอร์เฟซที่ทันสมัยและเรียบง่ายขึ้น แอปนี้ถูกออกแบบให้มีความเข้าใจง่าย เน้นที่ความเรียบง่ายและการใช้งานที่สะดวกสบาย ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทดแทน ‘Control Panel’ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม Microsoft ได้เลือกวิธีการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยให้ทั้งสองอินเทอร์เฟซนี้อยู่ร่วมกันในหลายๆ เวอร์ชันของ Windows

ด้วยการเปิดตัว Windows 10 Microsoft ได้ขยายแอป ‘Settings’ ให้ครอบคลุมฟังก์ชันที่เคยมีใน ‘Control Panel’ แอป ‘Settings’ นี้มอบประสบการณ์การใช้งานที่สอดคล้องกันมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้หน้าจอสัมผัส ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีอินเทอร์เฟซที่สะอาดและเป็นระเบียบมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการออกแบบของ Windows สมัยใหม่

เหตุผลที่ Microsoft ยกเลิก Control Panel

การตัดสินใจยกเลิก ‘Control Panel’ มีปัจจัยหลายประการที่สนับสนุน อย่างแรก Microsoft ต้องการลดความซ้ำซ้อนภายในระบบปฏิบัติการ การมีอินเทอร์เฟซสองแบบที่ทำหน้าที่เดียวกันอาจทำให้ผู้ใช้สับสน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ Windows ด้วยการรวมทุกการตั้งค่าไว้ในแอป ‘Settings’ Microsoft สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่เป็นเอกภาพมากขึ้น

ประการที่สอง แอป ‘Settings’ ถูกออกแบบให้รองรับอนาคตได้มากขึ้น เมื่อ Microsoft ยังคงพัฒนา Windows ต่อไป แอป ‘Settings’ สามารถปรับตัวเข้ากับฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ง่าย ในขณะที่ ‘Control Panel’ ซึ่งอิงกับสถาปัตยกรรมเก่า ทำให้การอัปเดตและการบำรุงรักษายากขึ้น

สุดท้าย การยกเลิกนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กว้างขวางของ Microsoft ในการสร้างระบบปฏิบัติการที่รวมศูนย์และทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นในทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าผู้ใช้จะใช้งานบน Desktop, Laptop, Tablet หรือ Smartphone แอป ‘Settings’ มอบประสบการณ์ที่สอดคล้องกัน ซึ่งได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับแต่ละประเภทของอุปกรณ์

สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไรสำหรับผู้ใช้

สำหรับผู้ใช้ทั่วไป การเปลี่ยนไปใช้แอป ‘Settings’ น่าจะเป็นไปอย่างราบรื่น เนื่องจากหลายฟังก์ชันของ ‘Control Panel’ ได้รับการบูรณาการเข้ากับอินเทอร์เฟซใหม่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ขั้นสูงและผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ที่พึ่งพาฟีเจอร์เฉพาะของ ‘Control Panel’ อาจต้องปรับตัวให้เข้ากับเลย์เอาต์ใหม่

Microsoft ได้ทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าฟังก์ชันสำคัญทั้งหมดจะสามารถใช้งานได้ในแอป ‘Settings’ ก่อนที่จะยกเลิก ‘Control Panel’ อย่างสิ้นเชิง ผู้ใช้อาจเห็นการอัปเดตและการปรับปรุงเพิ่มเติมในแอป ‘Settings’ เนื่องจาก Microsoft ยังคงปรับแต่งและพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของ Windows อย่างต่อเนื่อง

ในระยะยาว การเปลี่ยนแปลงนี้คาดว่าจะทำให้ Windows ใช้งานง่ายขึ้น และเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลายมากขึ้น ด้วยการมุ่งเน้นไปที่อินเทอร์เฟซที่เป็นเอกภาพ Microsoft สามารถยังคงนวัตกรรมและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้ต่อไป

สรุป

Microsoft กำลังจะยกเลิกฟีเจอร์ ‘Control Panel’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Windows มานานเกือบ 40 ปี โดยจะย้ายฟังก์ชันต่างๆ ไปยังแอป ‘Settings’ ที่ทันสมัยและใช้งานง่ายมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มขึ้นใน Windows 10 และจะดำเนินต่อไปใน Windows 11 ซึ่ง Microsoft มุ่งเน้นให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่เป็นเอกภาพและราบรื่นมากยิ่งขึ้น

การยกเลิก ‘Control Panel’ เป็นผลจากความต้องการลดความซ้ำซ้อนภายในระบบปฏิบัติการและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตด้วยอินเทอร์เฟซที่สามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น แม้ผู้ใช้บางกลุ่มอาจต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่ในระยะยาว การเปลี่ยนไปใช้แอป ‘Settings’ จะทำให้ Windows ใช้งานง่ายขึ้นและมีประสบการณ์ที่สอดคล้องกันบนทุกอุปกรณ์ของ Microsoft

Loading...
Post ID: 16413 | TTT-WEBSITE | AFRA APACHE

Recommended For You

Blog Technology

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ และวิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่โซล่าเซลล์

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3-5 ปี หรืออาจถึง 10 ปีได้หากดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ปัจจัยที่มีผลต่ออายุ การใช้งานของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ ได้แก่: ประเภทของแบตเตอรี่ แบตเตอรี่แบบตะกั่วกรด มีอายุการใช้งานสั้นกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน รอบการชาร์จ/คายประจุ การชาร์จ/คายประจุแบตเตอรี่บ่อยๆ จะส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ อุณหภูมิ อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไปอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ การดูแลรักษา การบำรุงรักษาแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ
Game NEWS AND EVENTS

MapleStory M ต้อนรับตัวละครใหม่ Adele กับกิจกรรมสุดพิเศษ

Adele กับกิจกรรมสุดพิเศษ ที่จะทำให้คุณเริ่มต้นเล่นได้ง่ายกว่าที่เคย MapleStory M Global เตรียมอัปเดตแพทช์ Adele ในวันที่ 16 ธันวาคม 2566 เวลา 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยแพทช์นี้จะเพิ่มตัวละครใหม่ Adele เข้ามาในเกม ซึ่งเป็นคลาสอาชีพที่