AI NEWS AND EVENTS Programming Protect Website Security Technology ระวัง! Telegram ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการขายข้อมูลผู้ใช้และ Deepfake October 10, 2024 ปัจจุบันแอปพลิเคชัน Telegram กำลังเป็นหนึ่งในช่องทางที่ถูกกลุ่มอาชญากรรมใช้ในการทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขายข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ไปจนถึงการซื้อขายมัลแวร์และซอฟต์แวร์ Deepfake ที่มีความสามารถในการปลอมแปลงภาพและเสียง ในรายงานของสหประชาชาติ (UN) ได้เตือนถึงการใช้แพลตฟอร์มนี้ในทางที่ผิด โดยชี้ให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรรมกำลังใช้ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของ Telegram เพื่อซ่อนตัวจากการถูกตรวจจับ ซึ่งเป็นปัญหาที่ท้าทายต่อการควบคุมและบังคับใช้กฎหมายในปัจจุบัน กลุ่มอาชญากรใช้ Telegram เนื่องจากมีระบบการเข้ารหัสข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้สามารถทำการซื้อขายข้อมูลผู้ใช้ที่ถูกขโมยหรือแฮ็กมาได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ การซื้อขายมัลแวร์ยังกลายเป็นเรื่องธรรมดาบนแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งรวมไปถึงซอฟต์แวร์สำหรับสร้าง Deepfake ที่สามารถนำมาใช้ในการปลอมแปลงภาพและเสียงของบุคคลเพื่อนำไปใช้ในทางที่ผิด การขายข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัวที่ถูกแฮ็กสามารถนำไปขายต่อในกลุ่มแชทแบบส่วนตัวใน Telegram ซึ่งผู้ซื้อสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ในการทำอาชญากรรมไซเบอร์ต่าง ๆ เช่น การปลอมแปลงตัวตน การโจมตีแบบฟิชชิ่ง (Phishing) และการขโมยทรัพย์สินออนไลน์ นอกจากนี้ การขายข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลการเข้าสู่ระบบบัญชีธนาคาร และข้อมูลทางการเงินอื่น ๆ ก็เป็นที่นิยมในกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้เป็นช่องทางในการซื้อขายข้อมูลเหล่านี้ การซื้อขายมัลแวร์การเข้าถึงมัลแวร์ที่เป็นอันตรายสามารถทำได้ง่ายขึ้นผ่าน Telegram กลุ่มผู้ใช้งานบางกลุ่มใช้แพลตฟอร์มนี้ในการแลกเปลี่ยนซอฟต์แวร์มัลแวร์ที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในการโจมตีคอมพิวเตอร์และเครือข่ายองค์กร การโจมตีเหล่านี้อาจมีวัตถุประสงค์ในการขโมยข้อมูล สำรองไฟล์ หรือเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ของเหยื่อโดยไม่รู้ตัว การใช้ Telegram เพื่อแลกเปลี่ยนมัลแวร์นี้เป็นปัญหาที่ท้าทายต่อการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก Deepfake และการปลอมแปลงข้อมูลซอฟต์แวร์ Deepfake ที่กำลังเป็นที่นิยมใน Telegram ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างเนื้อหาปลอม ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือเสียงที่ถูกดัดแปลงจากต้นฉบับเพื่อใช้ในการลวงหรือหลอกล่อให้เหยื่อตกหลุมพราง ซึ่งเป็นที่กังวลว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้ในการก่อเหตุอาชญากรรมที่ซับซ้อนและยากต่อการตรวจจับ การใช้ Deepfake ในการปลอมแปลงเอกสารหรือข้อมูลสำคัญ เช่น หลักฐานการเงินหรือการดำเนินคดี ก็เป็นประเด็นที่อาจนำไปสู่การเกิดความเสียหายร้ายแรงต่อทั้งบุคคลและองค์กร การตอบสนองของสหประชาชาติสหประชาชาติ (UN) ได้แสดงความกังวลต่อการใช้แพลตฟอร์ม Telegram ในการก่อเหตุอาชญากรรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลกไซเบอร์ ทาง UN ได้เรียกร้องให้มีการควบคุมและกำกับดูแลการใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้อย่างเข้มงวดมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงและปกป้องผู้ใช้จากการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มอาชญากรที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการหลบหลีกการตรวจจับ การเตรียมพร้อมของผู้ใช้ในการป้องกันตนเองผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและแอปพลิเคชัน Telegram ควรให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของตนเอง โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลบัตรเครดิตหรือข้อมูลการเข้าสู่ระบบผ่านแอปพลิเคชันเหล่านี้ นอกจากนี้ ควรใช้ระบบการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแรง เช่น การตรวจสอบสองขั้นตอน (Two-Factor Authentication) เพื่อป้องกันการถูกโจมตีหรือแฮ็กเข้าสู่บัญชีส่วนตัว การหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกลุ่มหรือการสนทนาที่น่าสงสัยก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มอาชญากร การเฝ้าระวังพฤติกรรมที่ผิดปกติในแพลตฟอร์มนี้ รวมถึงการรายงานกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อผู้ดูแลระบบของ Telegram เป็นวิธีที่ช่วยปกป้องตัวคุณเองและผู้อื่นจากการถูกเอาเปรียบทางไซเบอร์ ข้อสรุปTelegram ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่มีความปลอดภัยสูง ได้กลายเป็นแหล่งรวมกลุ่มของอาชญากรไซเบอร์ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ในการทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ การซื้อขายข้อมูลส่วนตัว การแลกเปลี่ยนมัลแวร์ และการพัฒนา Deepfake เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการการกำกับดูแลและการป้องกันที่ดีขึ้นจากทั้งองค์กรและผู้ใช้งาน อินเทอร์เน็ต Post Views: 214 Loading... Post ID: 18353 | TTT-WEBSITE | AFRA APACHE